ประธานกรรมการบริหาร เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ เผยโครงการสำเพ็ง 2 ถนนกัลปพฤกษ์ทยอยเปิดบางส่วนให้ลูกค้าตกแต่งร้านเดือนกันยายนนี้ เผยปีหน้าเปิดอีก 3 โครงการ ที่บางปู สายลวด สมุทรปราการ และอีกแห่ง “อ้อมน้อยสแควร์” คอมมูนิตี้มอลล์พร้อมที่พักอาศัย ทำเลพุทธมณฑล สาย 4 แยกสาครเกษม
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของโครงการสำเพ็ง 2 ฝั่งซ้ายและขวาของถนนกัลปพฤกษ์ เขตบางแค มูลค่า 8 พันล้านบาท ล่าสุดปิดการขายหมดแล้ว โดยเป็นฐานลูกค้าผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ค้าปลีกและค้าส่งจากตลาดสำเพ็งเดิม โดยที่งานก่อสร้างจะทยอยแล้วเสร็จให้ลูกค้าเข้าตกแต่งร้านในเดือนกันยายนนี้ เริ่มจากเฟส 1-3 บริเวณฝั่งซ้ายของถนนกัลปพฤกษ์-สาทร เป็นอาคารพาณิชย์ 509 ยูนิต ส่วนเฟสที่ 4 อยู่ฝั่งขวาของถนนกัลปพฤกษ์-สาทร ประกอบด้วยโซนช็อปปิ้งอเวนิว โซนตลาดน้ำ 5 ภาค สำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยว และโซนร้านขายส่ง ในคอนเซ็ปต์วอล์กกิ้งสตรีตรูปแบบเดียวกับย่านการค้าในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
ขณะเดียวกันในปลายปีนี้ ถึงปีหน้า บริษัทเตรียมเปิดตัวอีก 3 โครงการ เป็นศูนย์การค้าชุมชนและที่อยู่อาศัย มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท เพื่อรองรับการระดมทุน 4 พันล้านบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 3 ประกอบด้วยทำเลถนนสุขุมวิท บางปู จ.สมุทรปราการ บนเนื้อที่ 120 ไร่ จะก่อสร้างคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 14 อาคาร กว่า 1,500 ยูนิต และไลฟ์สไตล์มอลล์ ในแนวคิดเมืองไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ส่วนอีกทำเลห่างกัน 4 ก.ม. เป็นคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) สถานีสายลวด ราคา 1 ล้านบาทเศษ สูง 8-12 ชั้น กว่า 1,000 ยูนิต นอกจากนี้ อีกโครงการเป็นคอมมูนิตี้มอลล์และที่อยู่อาศัยทำเลอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื้อที่ 22 ไร่ ซึ่งบริษัทมั่นใจด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่จะได้รับประโยชน์ทางตรงภายหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่าโครงการคอมมูนิตี้มอลล์และที่อยู่อาศัยทำเลอ้อมน้อยนั้น มีชื่อว่า “อ้อมน้อยสแควร์” ทำเลถนนพุทธมณฑลสาย 4 ละแวกสี่แยกสาครเกษม (ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ถนนพุทธสาคร ตัดกับถนนเพชรเกษม) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 179 ยูนิต คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ จำนวน 10 อาคาร ขนาด 28-30 ตารางเมตร ราคา 9.3 แสนบาทขึ้นไป จำนวน 780 ยูนิต และคอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่เช่ากว่า 7,000 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการ 1,780 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในไตรมาส 3 ของปี 2556
วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556
นิราศชมตลาดสำเพ็ง
นิราศชมตลาดสำเพ็ง
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้แต่ง: นายบุศย์
แต่งเมื่อต้นสมัยรัชกาลที่ ๖
บทประพันธ์
๏ แสนวิตกอกโอ้พุทโธ่เอ๋ย
ชราร่างร้างรักที่จักเชย จะทำเฉยใจก็เตือนให้เชือนแช
ตัวไม่คิดจิตมันขืนฝืนไม่หาย ตนไม่หมายใจมันมาตรประหลาดแหล
คิดถึงตนจนจะตายกายชะแร ใจไม่แก่กรรมกรรมทำกระไร
นึกสลัดตัดกิเลสถือเพศสงฆ์ ตัวคิดปลงใจมันเฟือนเชือนไถล
ทางกุศลผลนำเพราะน้ำใจ จะพาให้ดีชั่วในตัวเรา
ฉันแค้นจิตคิดหมองตรองไม่ตก ดังกลิ้งครกฝ่าฝืนขึ้นบนเขา
สารพัดขัดขวางไม่บางเบา ความโศกเศร้าเที่ยวเดินให้เพลินใจ ฯ
อ่านต่อ...
*ยังไม่ได้เพิ่มเสียงประกอบ
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้แต่ง: นายบุศย์
แต่งเมื่อต้นสมัยรัชกาลที่ ๖
บทประพันธ์
๏ แสนวิตกอกโอ้พุทโธ่เอ๋ย
ชราร่างร้างรักที่จักเชย จะทำเฉยใจก็เตือนให้เชือนแช
ตัวไม่คิดจิตมันขืนฝืนไม่หาย ตนไม่หมายใจมันมาตรประหลาดแหล
คิดถึงตนจนจะตายกายชะแร ใจไม่แก่กรรมกรรมทำกระไร
นึกสลัดตัดกิเลสถือเพศสงฆ์ ตัวคิดปลงใจมันเฟือนเชือนไถล
ทางกุศลผลนำเพราะน้ำใจ จะพาให้ดีชั่วในตัวเรา
ฉันแค้นจิตคิดหมองตรองไม่ตก ดังกลิ้งครกฝ่าฝืนขึ้นบนเขา
สารพัดขัดขวางไม่บางเบา ความโศกเศร้าเที่ยวเดินให้เพลินใจ ฯ
อ่านต่อ...
*ยังไม่ได้เพิ่มเสียงประกอบ
ตอนที่ 5 “แหล่งช๊อปปิ้ง แหล่งผ้า ราคาย่อมเยาว์ คือ สำเพ็ง ”
ตอนที่ 5 “แหล่งช๊อปปิ้ง แหล่งผ้า ราคาย่อมเยาว์ คือ สำเพ็ง”
สวัสดีคะ เพื่อนๆ เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงกันบางหรือเปล่า ตามที่สัญญาไว้เลยว่าจะพาไปช๊อปปิ้งนอกสถานที่ ลันล้า ~ ใช้มั้ยละ ที่จะไปก็คือ “สำเพ็ง” ไงคร๊า..... สำเพ็งเป็นสถานที่ 1 สำหรับช๊อปปิ้งสำหรับแม่ค้าที่มารับของไปขาย เพราะสำเพ็งเป็นแหล่งค้าของส่งอีกที่ ที่มีสินค้ามากมายให้เลือกตั้งแต่ กิ๊ฟช๊อป ยันรองเท้าแตะ และที่เป็นเอกลักษณ์ของสำเพ็งอีกอย่าง 1 คือ ผ้า นั้นเอง. . . สำเพ็งมีผ้าแทบทุกชนิดที่เราต้องการนอกจากเพื่อนต้องการอะไรแปลกที่สำเพ็งไม่มีก็ต้องหาตามแหล่งอื่นไป แต่วันนี้ฝนจะพาไปดูแหล่งงานผ้า สำหรับทำงาน Quilt กัน . . . ขอบอกว่าเดินแล้วไม่ร้อนนะค่ะ มีแอร์เย็นๆ ด้วย อิอิ ฝนชอบคร๊า ....... เราไปกันเลยดีกว่าเนอะ
China World
ที่แรกฝนจะพาไป China World ค่ะตาม China World จะอยู่ฝั่งเดี่ยวกับดิโอสยาม แต่จะถึงก่อนดิโอสยาม ใน China World จะเป็นแหล่งรวมผ้าต่างๆ และพวกอุปกรณ์เย็บผ้าต่างๆเหมือนกัน แต่ร้านที่ฝนพาไปเนี้ย ดูอุปกรณ์เย็บงานผ้า ในChina World มี ประมาณ 2-3 ร้าน ร้านจะอยู่ชั้นที่ ชั้น 2 ขึ้นไปแล้วเจอเลยค่ะ ร้านขายผ้านี้จะขายของทุกอย่างที่เกี่ยวกับงาน Quilt เวลาเปิดฝนไม่ทราบแน่ชัด ฝนไป 9.30 น. ร้านก็เปิดแล้ว ไป 10 .00 น. ร้านก็เปิด เอาเป็นว่าร้านขายผ้านี้เปิดปกติ เปิดตั้งแต่ 9.30 น. ละกันเนอะ ต่อไปร้านขายอะไหล่อุปกรณ์งาน Quilt ร้านนี้น่ารักสามารถนั้งคุยนั้งเล่นได้คนขายก็น่ารัก ซื้อของที่นี้ครบ 300 บาท ได้สแตมป์ 1 ดวง ฝนกับอาจารย์แม่ก็ขนซื้อกัน 5 5 5 5 บางครั้งก็ได้ 2 ดวงบาง 3 ดวงบาง เพื่อนลองคำนวนดูค่ะว่าดูดเงินในกระเป๋าฝนกับอาจารย์แม่ไปเท่า เอิ้กๆๆ ร้านนี้อยู่ชั้น 2 ล็อก กลางๆ มีร้านเดี่ยวคะ หาไม่อยากเลย และในชั้นเดี่ยวกัน มีร้านขายผ้าอีกร้าน ร้านขายผ้าร้านนี้ขายแต่ผ้ามันอย่างเดียวเลย ต้องตัดกันเป็นเมตร เป็นหลา ฝนกับอาจารย์แม่ไม่ค่อยได้ช๊อปร้านนี้กันซะเท่าไรเพราะต้องซื้อทีละเยอะๆ ตุนผ้าไว้เยอะเดี่ยวมันจะเก่าซะก่อน 5 5 5 ต่อไปลงมาชั้นที่ 1 ร้านนี้ก็น่ารักอีกเช่น เราจะชอบร้านขายผ้านี้เป็นพิเศษเพราะว่าร้านนี้จะมีผ้าแปลกมาขาย เป็นผ้าของ อเมริกา ลายจะสวย เนื้อผ้าดีมากๆ แถมเจ้าของร้านน่ารัก เป็น สามี ภรรยา ช่วยกันขาย ส่วนงานผ้าของร้านขายผ้านี้ รับประกันฝีมือเลยว่า สวย เนียบ ละเอียดกว่าร้านขายผ้าชั้นที่ 2 แต่ในเมื่องานออกมาสวย เนียบ ราคาก็จะสูงตามงานนั้นไปเหมือนกัน 5 5 5 5+
ในส่วนของ Chaina world หมดแล้วต่อไปเราจะไปเล่นตรอกเล็กๆ ตรงข้ามฝั่น Chaina world เห็นอาจารย์แม่พาเดิมข้ามถนนไป ฝั่งตรอกนี้เค้าเรียกว่าฝั่งหัวเม็ด ฝนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเรียกหัวเม็ด เดินเข้าไป 2 ข้างทางก็จะมีร้านขายผ้าหลากหลายชิ้น มีทั้งร้านขายผ้าในตึกและร้านขายผ้าที่เช่าหน้าร้านขาย ฝั่งนี้ก็จะขายพวกอะไหล่งานฝีมือซะส่วนมาก จะไม่ค่อยมีงานสำเร็จซะเท่าไร เวลาซื้อของฝั่งหัวเม็ดเนี้ย จะต้องซื้อแนวยกโหลกันไปเลยไม่มีแบ่งขาย ถ้าแบ่งขายก็มีบางร้านปะปลาย ราคาก็แตกต่างกันไป สำหรับงานผ้าฝั่งหัวเม็ดแล้วจะไม่ค่อยมีเพราะฝั่งนี้จะเป็นพวกอะไหล่ที่เอาไปประกอบกันเองซะมากกว่า ต่อไปข้ามไปฝั่งสำเพ็งกัน ฝั่งสำเพ็งบุกเดินเข้าไปเนี้ยจะมีแต่พวกกิ๊ฟช๊อปเยอะมาก ยิ่งพวกสาวๆ ไปเดินเนี้ย เดี่ยวจะหาฝนไม่เตือนหน๊าเพราะว่าของจุกจิกเยอะเหมือนกัน สวยๆๆ ทั้งนั้นเลย แล้วแต่คนชอบแนวไหนก็ต้องเดินหากันไปว่า แบบไหน ก็เตรียมเงินในกระเป๋าไปให้พอละกันนะ คร๊า......... คอนเซ็ปมีอยู่ว่า ขาไปกระเป๋าตุง ขากลับกระเป๋าแฟ็บ ของเต็มมือ 5 5 5
สวัสดีคะ เพื่อนๆ เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงกันบางหรือเปล่า ตามที่สัญญาไว้เลยว่าจะพาไปช๊อปปิ้งนอกสถานที่ ลันล้า ~ ใช้มั้ยละ ที่จะไปก็คือ “สำเพ็ง” ไงคร๊า..... สำเพ็งเป็นสถานที่ 1 สำหรับช๊อปปิ้งสำหรับแม่ค้าที่มารับของไปขาย เพราะสำเพ็งเป็นแหล่งค้าของส่งอีกที่ ที่มีสินค้ามากมายให้เลือกตั้งแต่ กิ๊ฟช๊อป ยันรองเท้าแตะ และที่เป็นเอกลักษณ์ของสำเพ็งอีกอย่าง 1 คือ ผ้า นั้นเอง. . . สำเพ็งมีผ้าแทบทุกชนิดที่เราต้องการนอกจากเพื่อนต้องการอะไรแปลกที่สำเพ็งไม่มีก็ต้องหาตามแหล่งอื่นไป แต่วันนี้ฝนจะพาไปดูแหล่งงานผ้า สำหรับทำงาน Quilt กัน . . . ขอบอกว่าเดินแล้วไม่ร้อนนะค่ะ มีแอร์เย็นๆ ด้วย อิอิ ฝนชอบคร๊า ....... เราไปกันเลยดีกว่าเนอะ
China World
ที่แรกฝนจะพาไป China World ค่ะตาม China World จะอยู่ฝั่งเดี่ยวกับดิโอสยาม แต่จะถึงก่อนดิโอสยาม ใน China World จะเป็นแหล่งรวมผ้าต่างๆ และพวกอุปกรณ์เย็บผ้าต่างๆเหมือนกัน แต่ร้านที่ฝนพาไปเนี้ย ดูอุปกรณ์เย็บงานผ้า ในChina World มี ประมาณ 2-3 ร้าน ร้านจะอยู่ชั้นที่ ชั้น 2 ขึ้นไปแล้วเจอเลยค่ะ ร้านขายผ้านี้จะขายของทุกอย่างที่เกี่ยวกับงาน Quilt เวลาเปิดฝนไม่ทราบแน่ชัด ฝนไป 9.30 น. ร้านก็เปิดแล้ว ไป 10 .00 น. ร้านก็เปิด เอาเป็นว่าร้านขายผ้านี้เปิดปกติ เปิดตั้งแต่ 9.30 น. ละกันเนอะ ต่อไปร้านขายอะไหล่อุปกรณ์งาน Quilt ร้านนี้น่ารักสามารถนั้งคุยนั้งเล่นได้คนขายก็น่ารัก ซื้อของที่นี้ครบ 300 บาท ได้สแตมป์ 1 ดวง ฝนกับอาจารย์แม่ก็ขนซื้อกัน 5 5 5 5 บางครั้งก็ได้ 2 ดวงบาง 3 ดวงบาง เพื่อนลองคำนวนดูค่ะว่าดูดเงินในกระเป๋าฝนกับอาจารย์แม่ไปเท่า เอิ้กๆๆ ร้านนี้อยู่ชั้น 2 ล็อก กลางๆ มีร้านเดี่ยวคะ หาไม่อยากเลย และในชั้นเดี่ยวกัน มีร้านขายผ้าอีกร้าน ร้านขายผ้าร้านนี้ขายแต่ผ้ามันอย่างเดียวเลย ต้องตัดกันเป็นเมตร เป็นหลา ฝนกับอาจารย์แม่ไม่ค่อยได้ช๊อปร้านนี้กันซะเท่าไรเพราะต้องซื้อทีละเยอะๆ ตุนผ้าไว้เยอะเดี่ยวมันจะเก่าซะก่อน 5 5 5 ต่อไปลงมาชั้นที่ 1 ร้านนี้ก็น่ารักอีกเช่น เราจะชอบร้านขายผ้านี้เป็นพิเศษเพราะว่าร้านนี้จะมีผ้าแปลกมาขาย เป็นผ้าของ อเมริกา ลายจะสวย เนื้อผ้าดีมากๆ แถมเจ้าของร้านน่ารัก เป็น สามี ภรรยา ช่วยกันขาย ส่วนงานผ้าของร้านขายผ้านี้ รับประกันฝีมือเลยว่า สวย เนียบ ละเอียดกว่าร้านขายผ้าชั้นที่ 2 แต่ในเมื่องานออกมาสวย เนียบ ราคาก็จะสูงตามงานนั้นไปเหมือนกัน 5 5 5 5+
ในส่วนของ Chaina world หมดแล้วต่อไปเราจะไปเล่นตรอกเล็กๆ ตรงข้ามฝั่น Chaina world เห็นอาจารย์แม่พาเดิมข้ามถนนไป ฝั่งตรอกนี้เค้าเรียกว่าฝั่งหัวเม็ด ฝนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเรียกหัวเม็ด เดินเข้าไป 2 ข้างทางก็จะมีร้านขายผ้าหลากหลายชิ้น มีทั้งร้านขายผ้าในตึกและร้านขายผ้าที่เช่าหน้าร้านขาย ฝั่งนี้ก็จะขายพวกอะไหล่งานฝีมือซะส่วนมาก จะไม่ค่อยมีงานสำเร็จซะเท่าไร เวลาซื้อของฝั่งหัวเม็ดเนี้ย จะต้องซื้อแนวยกโหลกันไปเลยไม่มีแบ่งขาย ถ้าแบ่งขายก็มีบางร้านปะปลาย ราคาก็แตกต่างกันไป สำหรับงานผ้าฝั่งหัวเม็ดแล้วจะไม่ค่อยมีเพราะฝั่งนี้จะเป็นพวกอะไหล่ที่เอาไปประกอบกันเองซะมากกว่า ต่อไปข้ามไปฝั่งสำเพ็งกัน ฝั่งสำเพ็งบุกเดินเข้าไปเนี้ยจะมีแต่พวกกิ๊ฟช๊อปเยอะมาก ยิ่งพวกสาวๆ ไปเดินเนี้ย เดี่ยวจะหาฝนไม่เตือนหน๊าเพราะว่าของจุกจิกเยอะเหมือนกัน สวยๆๆ ทั้งนั้นเลย แล้วแต่คนชอบแนวไหนก็ต้องเดินหากันไปว่า แบบไหน ก็เตรียมเงินในกระเป๋าไปให้พอละกันนะ คร๊า......... คอนเซ็ปมีอยู่ว่า ขาไปกระเป๋าตุง ขากลับกระเป๋าแฟ็บ ของเต็มมือ 5 5 5
65ปีแห่งการเสด็จสำเพ็ง
65ปีแห่งการเสด็จสำเพ็ง
วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 หรือเมื่อ 65 ปีก่อน มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย นั่นคือการเสด็จประพาสสำเพ็งของในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ซึ่งวันนี้ผมขอนำเรื่องราวที่น่าประทับใจดังกล่าวมาเล่าสู่ผู้อ่านคอลัมน์นี้ด้วยครับ
เมื่อญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น รัฐบาลก๊กมินตั๋งของจีนซึ่งร่วมกับสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม และเป็น 1 ใน 5 มหาอำนาจของโลกในเวลานั้น ได้แสดงความประสงค์ที่จะส่งทหารจีนเข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในไทย ขณะที่คนจีนบางกลุ่มในประเทศไทยเองก็เกิดความรู้สึกว่าตนเป็นผู้ชนะสงคราม เนื่องจากรัฐบาลไทยสมัยสงครามเข้ากับญี่ปุ่น ดังนั้นจึงคิดว่าไทยเป็นฝ่ายแพ้สงครามด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยในเวลานั้นเกรงว่าหากยินยอมให้ทหารจีนเข้ามาอาจจะเกิดปัญหาด้านความมั่นคงของไทยได้ จึงขอร้องให้ทหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปลดอาวุธตัวเอง ต่อลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบทแทน ผู้บัญชาการทหารอังกฤษ ประจำภาคตะวันออกไกล เป็นผลให้คนจีนเหล่านั้นไม่พอใจ ประกอบกับรัฐบาลจีนได้ทำสนธิสัญญาทางไมตรีครั้งแรกกับไทย และส่งเอกอัครราชทูตมาประจำที่ประเทศไทย กับประกาศนโยบายให้คนจีนที่เกิดนอกประเทศได้รับสัญชาติจีน จึงทำให้คนจีนเกิดความรู้สึกเรื่องชาตินิยมรุนแรงขึ้น ถึงกับมีการเรียกร้องสิทธิพิเศษต่างๆ จากรัฐบาลไทย นอกเหนือจากการชักธงชาติจีน และประดับรูปผู้นำจีนตามบ้านเรือนและร้านค้า
รวมทั้งทำร้ายคนไทยที่เข้าไปในย่านของคนจีน เช่น สำเพ็ง เยาวราช และถนนเจริญกรุง จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนไทยกับคนจีน จนทางการต้องส่งกำลังเข้าระงับเหตุ แต่เหตุการณ์ที่ทำท่าว่าจะรุนแรง ก็กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เสด็จพระราชดำเนินเยือนสำเพ็งอันเป็นถิ่นของคนจีน ในกรุงเทพฯ
ในช่วงสงคราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระอนุชา ประทับและทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จนิวัตพระนครในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2488 เมื่อทรงทราบความขัดแย้งดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงมีพระราชประสงค์จะเสด็จประพาสสำเพ็ง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อ
ในวันที่ 3 มิถุนายน 2489 อันเป็นวันเสด็จพระราชดำเนิน ประชาชนชาวจีนในสำเพ็งต่างพากันปีติยินดี และร่วมกันตบแต่งบ้านเรือนด้วยธงทิวและแพรพรรณ ตั้งโต๊ะบูชาด้วยเครื่องลายครามและเครื่องแก้วเจียระไน สร้างซุ้มประตูรับเสด็จด้วยดอกไม้สดประดับประดาเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ ตั้งแต่ปากตรอกสะพานหัน และสองฟากของสำเพ็ง มีพสกนิกรชาวจีนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น บางครั้งได้เสด็จไปประทับในบ้านและร้านรวงที่กราบบังคมทูลเชิญ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด โดยไม่ทรงถือพระองค์ รวมเป็นเวลาที่ประพาสสำเพ็งประมาณครึ่งวัน ต่อจากนั้นได้เสด็จฯ ไปเสวยพระกระยาหารกลางวันที่สมาคมไทย-จีน ถนนสาทร และทอดพระเนตรกีฬากับการละเล่นต่างๆ ก่อนเสด็จฯ กลับ
ในหนังสือ “จากฮวงโหสู่เจ้าพระยา” จัดพิมพ์โดยธนาคารกสิกรไทย เมื่อปี พ.ศ. 2548 กล่าวว่า “มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจหลายประการ เช่นชาวจีนสูงอายุที่มั่งคั่งคนหนึ่งในสำเพ็ง ได้นำฝุ่นทรายมาโปรยลงบนพรมที่ปูลาดไว้หน้าร้าน แล้วกราบบังคมทูลขอให้ทรงเหยียบลงบนพรมนั้น เมื่อทรงทำตามแล้ว ชาวจีนผู้นั้นก็นำฝุ่นทรายประจงใส่กระถางลายครามใบใหญ่แล้วนำขึ้นไปตั้งไว้บนโต๊ะบูชาทันที”
รัชกาลที่ 8 โปรดการเสด็จประพาสสำเพ็งมาก ทรงเล่าถึงชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเข้าเฝ้าฯ ว่า “ฉันกำลังเดินเพลินๆ อยู่พอก้าวขาออกไป ก็มีจีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาตรงเท้า ฉันตกใจเหลียวมาดู เห็นเขากอบเอาขี้ฝุ่นตรงที่ฉันเหยียบมาใหม่ๆ ใส่มือแล้วเอาใส่ห่อผ้าเช็ดหน้าไว้ ถามดูได้ความว่าจะเอาไปบูชา”
การเสด็จประพาสสำเพ็ง ของในหลวงทั้งสองพระองค์ เมื่อ 65 ปีที่แล้ว นับเป็นการสมานรอยร้าวของพี่น้องจีน-ไทยในครั้งนั้นให้คืนสู่ปกติอย่างน่าอัศจรรย์ และพี่น้องทั้งสองสายเลือดก็ได้ร่วมกันสร้างประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ามาตราบเท่าทุกวันนี้
วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 หรือเมื่อ 65 ปีก่อน มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย นั่นคือการเสด็จประพาสสำเพ็งของในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ซึ่งวันนี้ผมขอนำเรื่องราวที่น่าประทับใจดังกล่าวมาเล่าสู่ผู้อ่านคอลัมน์นี้ด้วยครับ
เมื่อญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น รัฐบาลก๊กมินตั๋งของจีนซึ่งร่วมกับสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม และเป็น 1 ใน 5 มหาอำนาจของโลกในเวลานั้น ได้แสดงความประสงค์ที่จะส่งทหารจีนเข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในไทย ขณะที่คนจีนบางกลุ่มในประเทศไทยเองก็เกิดความรู้สึกว่าตนเป็นผู้ชนะสงคราม เนื่องจากรัฐบาลไทยสมัยสงครามเข้ากับญี่ปุ่น ดังนั้นจึงคิดว่าไทยเป็นฝ่ายแพ้สงครามด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยในเวลานั้นเกรงว่าหากยินยอมให้ทหารจีนเข้ามาอาจจะเกิดปัญหาด้านความมั่นคงของไทยได้ จึงขอร้องให้ทหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปลดอาวุธตัวเอง ต่อลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบทแทน ผู้บัญชาการทหารอังกฤษ ประจำภาคตะวันออกไกล เป็นผลให้คนจีนเหล่านั้นไม่พอใจ ประกอบกับรัฐบาลจีนได้ทำสนธิสัญญาทางไมตรีครั้งแรกกับไทย และส่งเอกอัครราชทูตมาประจำที่ประเทศไทย กับประกาศนโยบายให้คนจีนที่เกิดนอกประเทศได้รับสัญชาติจีน จึงทำให้คนจีนเกิดความรู้สึกเรื่องชาตินิยมรุนแรงขึ้น ถึงกับมีการเรียกร้องสิทธิพิเศษต่างๆ จากรัฐบาลไทย นอกเหนือจากการชักธงชาติจีน และประดับรูปผู้นำจีนตามบ้านเรือนและร้านค้า
รวมทั้งทำร้ายคนไทยที่เข้าไปในย่านของคนจีน เช่น สำเพ็ง เยาวราช และถนนเจริญกรุง จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนไทยกับคนจีน จนทางการต้องส่งกำลังเข้าระงับเหตุ แต่เหตุการณ์ที่ทำท่าว่าจะรุนแรง ก็กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เสด็จพระราชดำเนินเยือนสำเพ็งอันเป็นถิ่นของคนจีน ในกรุงเทพฯ
ในช่วงสงคราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระอนุชา ประทับและทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จนิวัตพระนครในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2488 เมื่อทรงทราบความขัดแย้งดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงมีพระราชประสงค์จะเสด็จประพาสสำเพ็ง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อ
ในวันที่ 3 มิถุนายน 2489 อันเป็นวันเสด็จพระราชดำเนิน ประชาชนชาวจีนในสำเพ็งต่างพากันปีติยินดี และร่วมกันตบแต่งบ้านเรือนด้วยธงทิวและแพรพรรณ ตั้งโต๊ะบูชาด้วยเครื่องลายครามและเครื่องแก้วเจียระไน สร้างซุ้มประตูรับเสด็จด้วยดอกไม้สดประดับประดาเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ ตั้งแต่ปากตรอกสะพานหัน และสองฟากของสำเพ็ง มีพสกนิกรชาวจีนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น บางครั้งได้เสด็จไปประทับในบ้านและร้านรวงที่กราบบังคมทูลเชิญ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด โดยไม่ทรงถือพระองค์ รวมเป็นเวลาที่ประพาสสำเพ็งประมาณครึ่งวัน ต่อจากนั้นได้เสด็จฯ ไปเสวยพระกระยาหารกลางวันที่สมาคมไทย-จีน ถนนสาทร และทอดพระเนตรกีฬากับการละเล่นต่างๆ ก่อนเสด็จฯ กลับ
ในหนังสือ “จากฮวงโหสู่เจ้าพระยา” จัดพิมพ์โดยธนาคารกสิกรไทย เมื่อปี พ.ศ. 2548 กล่าวว่า “มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจหลายประการ เช่นชาวจีนสูงอายุที่มั่งคั่งคนหนึ่งในสำเพ็ง ได้นำฝุ่นทรายมาโปรยลงบนพรมที่ปูลาดไว้หน้าร้าน แล้วกราบบังคมทูลขอให้ทรงเหยียบลงบนพรมนั้น เมื่อทรงทำตามแล้ว ชาวจีนผู้นั้นก็นำฝุ่นทรายประจงใส่กระถางลายครามใบใหญ่แล้วนำขึ้นไปตั้งไว้บนโต๊ะบูชาทันที”
รัชกาลที่ 8 โปรดการเสด็จประพาสสำเพ็งมาก ทรงเล่าถึงชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเข้าเฝ้าฯ ว่า “ฉันกำลังเดินเพลินๆ อยู่พอก้าวขาออกไป ก็มีจีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาตรงเท้า ฉันตกใจเหลียวมาดู เห็นเขากอบเอาขี้ฝุ่นตรงที่ฉันเหยียบมาใหม่ๆ ใส่มือแล้วเอาใส่ห่อผ้าเช็ดหน้าไว้ ถามดูได้ความว่าจะเอาไปบูชา”
การเสด็จประพาสสำเพ็ง ของในหลวงทั้งสองพระองค์ เมื่อ 65 ปีที่แล้ว นับเป็นการสมานรอยร้าวของพี่น้องจีน-ไทยในครั้งนั้นให้คืนสู่ปกติอย่างน่าอัศจรรย์ และพี่น้องทั้งสองสายเลือดก็ได้ร่วมกันสร้างประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ามาตราบเท่าทุกวันนี้
ปริศนานาม..สำเพ็ง
ปริศนานาม..สำเพ็ง
ใครที่ไปไหว้หลวงพ่อทองคำ หรือหลวงพ่อสุโขทัย ที่ชั้นบนสุดของพระวิหารหลังใหม่ วัดไตรมิตร ตอนนี้ ชั้นล่างๆลงมา มีนิทรรศการตำนานการหล่อพระ และเรื่องราวของตลาดเยาวราช... เกี่ยวข้องไปถึงผู้นำในตระกูลแซ่สำคัญ ให้ดูให้ความรู้เป็นของแถมก่อนกลับบ้าน
วัดไตรมิตร ชื่อเดิมคือวัดสามจีน ตั้งอยู่ ในย่านเยาวราช ซึ่งเดิมมีชื่อเรียกตามวัดว่า วัดสำเพ็ง สมัยก่อนเรียกว่า สามเพ็ง และย่านนี้ก็มีวัดสามปลื้ม หรือวัดจักรวรรดิ นับเป็นชื่อวัดที่ขึ้นต้นด้วยสาม รวมสามแห่ง
ในหนังสือเล่าเรื่องบางกอก เล่ม 2 ส.พลายน้อย เล่าว่า วัดสำเพ็งเป็นวัดโบราณ ในสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสถาปนาอุทิศ ถวายสมเด็จพระชนกาธิบดี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าพระราชทานนามใหม่ว่าวัดปทุมคงคา
ชื่อสำเพ็ง ในยุคสมัยหนึ่ง ถูกใช้ในคำด่าว่า "อีสำเพ็ง" เหตุเพราะแถวนั้นขึ้นชื่อในทางมีโสเภณี ถึงขนาดรัฐบาลเคยกำหนดให้เป็นเขตโสเภณี สุนทรภู่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 เติบโตในสมัยรัชกาลที่ 2 เคยเขียนถึงสำเพ็งไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า
ถึงสำเพ็งเก๋งตั้งริมฝั่งน้ำ แพประจำยอดเรียงเคียงขนาน มีซุ้มซอกตรอกนางจ้างประจาน ยังสำราญร้องขับไม่หลับลง...
ส.พลายน้อยบอกว่า สุนทรภู่ถ้ารู้เรื่องสำเพ็ง คงจะเล่าไว้บ้างในนิราศ แต่ไม่เล่า กลับไปเล่าเรื่องโสเภณี แสดงว่า สำเพ็งขึ้นชื่อในการมีโสเภณีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2
ชื่อเสียงของผู้หญิงสำเพ็ง ยังลือเลื่องต่อมาถึงสมัยที่มีการตัดถนนเจริญกรุง ตรอกซอกแถวถนนเจริญกรุง มีซ่องโสเภณีมีชื่อเสียงติดปากคนหนุ่มสมัยนั้น นอกจากอำแดงแฟง และยายเต๊า แล้วก็ยังมียายอิ่มขาว
มีชื่ออย่างนี้ แสดงว่า มีแม่เล้าชื่ออิ่มหลายคน แต่ยายอิ่มคนนี้ที่จะขาวกว่าคนอื่น
ยายอิ่มขาวร่ำรวยมาก ขนาดมีตึกใหญ่โตรโหฐานอยู่แถวศาลเจ้าเก่า นอกจากยายอิ่ม ก็มี ยายหม่อม ซึ่งเป็นคนสร้างวิวัฒนาการโสเภณีให้ก้าวหน้า ยายหม่อมหัดหญิงโสเภณีให้เล่นงิ้วเล่นลิเก
แฟนงิ้วแฟนลิเกติดใจตัวแสดงตัวไหน อยากสนทนาความลับด้วย ก็จะต้องเสียค่า ปิดประตูให้แก่เจ้าของโรงตามระเบียบ
แนวความคิดนี้ ในสมัยต่อมาดัดแปลงเป็นเต้นระบำ อย่างที่เรียกกันว่า ระบำเก้าชั้น หรือระบำตาหรั่ง ระบำตาหรั่งขึ้นชื่อลือชามากในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ส่วนคำ "สำเพ็งเก๋ง" นั้น ไม่เพียงมีในนิราศ สุนทรภู่ ต.ว.ส.วัณณาโภ เขียนไว้ในหนังสือ นิเทศสาธกคำกลอนไว้ตอนหนึ่งว่า "อนึ่งสำเพ็งเก๋งเขามี ที่ถนน แต่ฝูงชนอาศัยความเอานามหญิง โสเภณีมี ประจำเป็นคำอิง แต่ความจริงนั้น "สำเพ็งเก๋ง" ยังมี"
ข้อควรพิเคราะห์ สำเพ็งเก๋ง คืออะไร เก๋งคือเรือนที่มีรูปหลังคาแบบศาลเจ้าจีน ชื่อสำเพ็งเก๋ง ก็คือชื่อของเก๋งแบบจีน
ส่วนคำว่า สำเพ็ง แปลว่าอะไร เคยมีผู้อธิบายว่า คำจีนแต้จิ๋ว มีคำว่าสามเผง แปลว่า ศานติทั้งสาม เมื่อถามต่อว่า ศานติทั้งสาม คืออะไร ก็ตอบกันไม่ได้ ส.พลายน้อยเข้าใจว่า น่าจะเป็นการแปลชนิดลากเข้าหาความเสียมากกว่า
เมื่อยังหาที่มาของคำ "สำเพ็ง" หรือ "สามเพ็ง" ยังไม่ได้ ส.พลายน้อยขอตั้งเป็นข้อสันนิษฐาน แถวสำเพ็งในสมัยก่อนนั้น น่าจะเป็นทาง "สามแพร่ง"
ทางสามแพร่ง คนโบราณถือกันว่าเป็นที่เปลี่ยว เวลาจะทำบัตรพลีบวงสรวงอะไร เขาก็มักจะเอาเครื่องบัตรพลี หรือเครื่องเสียเคราะห์ เสียกบาล ไปแขวนไว้บนต้นไม้ หรือวางไว้แถวทางสามแพร่ง
ฟังๆดู ทางสามแพร่งไม่ค่อยเป็นมงคลเท่าใดนัก ดูมีเค้าลางของความตายเคลือบอยู่ด้วย
ส.พลายน้อยบอกว่า ที่วัดสำเพ็งในสมัยสร้างกรุงเทพฯ ใช้เป็นที่ประหารนักโทษที่เป็นเจ้านาย หากประหารผู้ร้ายชาวบ้านธรรมดา ก็จะประหารกันที่วัดโคกหรือวัดพลับพลาชัย
เมื่อมีงานพระบรมศพ เมื่อเก็บพระบรมอัฐิ แล้วก็เชิญพระอังคารลงเรือบุษบก หรือศรี ตั้งกระบวนแห่มีกลองชนะ ไปลอยอังคารที่วัดสำเพ็ง
ช้างเผือกล้มก็ทำเช่นเดียวกัน เขาจะเอาผ้าขาวห่อช้างที่ตาย มีเรือดั้งเรือกัน แห่เอาไปถ่วงที่หน้าวัดสำเพ็ง
พิจารณาตามเค้าเดิมนี้ ส.พลายน้อย บอกว่า น่าคิดว่า บริเวณนั้น หน้าวัดแต่ก่อนคงจะเป็นที่น้ำลึก ส่วนบนบกก็น่าจะเป็นทางสามแพร่ง คำสามแพร่งชาวจีน อาจเรียกเพี้ยนเป็น สำแพง และสำเพ็งไปก็ได้
ข้อสันนิษฐานนี้ ขุนวิจิตรมาตราแย้งว่า สำเพ็งไม่น่าจะมาจากคำว่า สามแพร่ง แต่น่าจะมาจากคำว่า "สามปลื้ม" มากกว่า ลิ้นคนจีนพูดคำสามปลื้มไม่ชัด จึงเพี้ยนมา เป็น "สำเพ็ง"
ส.พลายน้อยปลงทิ้งท้าย...คิดๆดูก็แปลก ชั่วเวลา 200 ปี ไม่มีใครรู้ความหมายของคำว่า "สำเพ็ง" ว่ามาจากอะไรเสียแล้ว.
ใครที่ไปไหว้หลวงพ่อทองคำ หรือหลวงพ่อสุโขทัย ที่ชั้นบนสุดของพระวิหารหลังใหม่ วัดไตรมิตร ตอนนี้ ชั้นล่างๆลงมา มีนิทรรศการตำนานการหล่อพระ และเรื่องราวของตลาดเยาวราช... เกี่ยวข้องไปถึงผู้นำในตระกูลแซ่สำคัญ ให้ดูให้ความรู้เป็นของแถมก่อนกลับบ้าน
วัดไตรมิตร ชื่อเดิมคือวัดสามจีน ตั้งอยู่ ในย่านเยาวราช ซึ่งเดิมมีชื่อเรียกตามวัดว่า วัดสำเพ็ง สมัยก่อนเรียกว่า สามเพ็ง และย่านนี้ก็มีวัดสามปลื้ม หรือวัดจักรวรรดิ นับเป็นชื่อวัดที่ขึ้นต้นด้วยสาม รวมสามแห่ง
ในหนังสือเล่าเรื่องบางกอก เล่ม 2 ส.พลายน้อย เล่าว่า วัดสำเพ็งเป็นวัดโบราณ ในสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสถาปนาอุทิศ ถวายสมเด็จพระชนกาธิบดี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าพระราชทานนามใหม่ว่าวัดปทุมคงคา
ชื่อสำเพ็ง ในยุคสมัยหนึ่ง ถูกใช้ในคำด่าว่า "อีสำเพ็ง" เหตุเพราะแถวนั้นขึ้นชื่อในทางมีโสเภณี ถึงขนาดรัฐบาลเคยกำหนดให้เป็นเขตโสเภณี สุนทรภู่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1 เติบโตในสมัยรัชกาลที่ 2 เคยเขียนถึงสำเพ็งไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า
ถึงสำเพ็งเก๋งตั้งริมฝั่งน้ำ แพประจำยอดเรียงเคียงขนาน มีซุ้มซอกตรอกนางจ้างประจาน ยังสำราญร้องขับไม่หลับลง...
ส.พลายน้อยบอกว่า สุนทรภู่ถ้ารู้เรื่องสำเพ็ง คงจะเล่าไว้บ้างในนิราศ แต่ไม่เล่า กลับไปเล่าเรื่องโสเภณี แสดงว่า สำเพ็งขึ้นชื่อในการมีโสเภณีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2
ชื่อเสียงของผู้หญิงสำเพ็ง ยังลือเลื่องต่อมาถึงสมัยที่มีการตัดถนนเจริญกรุง ตรอกซอกแถวถนนเจริญกรุง มีซ่องโสเภณีมีชื่อเสียงติดปากคนหนุ่มสมัยนั้น นอกจากอำแดงแฟง และยายเต๊า แล้วก็ยังมียายอิ่มขาว
มีชื่ออย่างนี้ แสดงว่า มีแม่เล้าชื่ออิ่มหลายคน แต่ยายอิ่มคนนี้ที่จะขาวกว่าคนอื่น
ยายอิ่มขาวร่ำรวยมาก ขนาดมีตึกใหญ่โตรโหฐานอยู่แถวศาลเจ้าเก่า นอกจากยายอิ่ม ก็มี ยายหม่อม ซึ่งเป็นคนสร้างวิวัฒนาการโสเภณีให้ก้าวหน้า ยายหม่อมหัดหญิงโสเภณีให้เล่นงิ้วเล่นลิเก
แฟนงิ้วแฟนลิเกติดใจตัวแสดงตัวไหน อยากสนทนาความลับด้วย ก็จะต้องเสียค่า ปิดประตูให้แก่เจ้าของโรงตามระเบียบ
แนวความคิดนี้ ในสมัยต่อมาดัดแปลงเป็นเต้นระบำ อย่างที่เรียกกันว่า ระบำเก้าชั้น หรือระบำตาหรั่ง ระบำตาหรั่งขึ้นชื่อลือชามากในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ส่วนคำ "สำเพ็งเก๋ง" นั้น ไม่เพียงมีในนิราศ สุนทรภู่ ต.ว.ส.วัณณาโภ เขียนไว้ในหนังสือ นิเทศสาธกคำกลอนไว้ตอนหนึ่งว่า "อนึ่งสำเพ็งเก๋งเขามี ที่ถนน แต่ฝูงชนอาศัยความเอานามหญิง โสเภณีมี ประจำเป็นคำอิง แต่ความจริงนั้น "สำเพ็งเก๋ง" ยังมี"
ข้อควรพิเคราะห์ สำเพ็งเก๋ง คืออะไร เก๋งคือเรือนที่มีรูปหลังคาแบบศาลเจ้าจีน ชื่อสำเพ็งเก๋ง ก็คือชื่อของเก๋งแบบจีน
ส่วนคำว่า สำเพ็ง แปลว่าอะไร เคยมีผู้อธิบายว่า คำจีนแต้จิ๋ว มีคำว่าสามเผง แปลว่า ศานติทั้งสาม เมื่อถามต่อว่า ศานติทั้งสาม คืออะไร ก็ตอบกันไม่ได้ ส.พลายน้อยเข้าใจว่า น่าจะเป็นการแปลชนิดลากเข้าหาความเสียมากกว่า
เมื่อยังหาที่มาของคำ "สำเพ็ง" หรือ "สามเพ็ง" ยังไม่ได้ ส.พลายน้อยขอตั้งเป็นข้อสันนิษฐาน แถวสำเพ็งในสมัยก่อนนั้น น่าจะเป็นทาง "สามแพร่ง"
ทางสามแพร่ง คนโบราณถือกันว่าเป็นที่เปลี่ยว เวลาจะทำบัตรพลีบวงสรวงอะไร เขาก็มักจะเอาเครื่องบัตรพลี หรือเครื่องเสียเคราะห์ เสียกบาล ไปแขวนไว้บนต้นไม้ หรือวางไว้แถวทางสามแพร่ง
ฟังๆดู ทางสามแพร่งไม่ค่อยเป็นมงคลเท่าใดนัก ดูมีเค้าลางของความตายเคลือบอยู่ด้วย
ส.พลายน้อยบอกว่า ที่วัดสำเพ็งในสมัยสร้างกรุงเทพฯ ใช้เป็นที่ประหารนักโทษที่เป็นเจ้านาย หากประหารผู้ร้ายชาวบ้านธรรมดา ก็จะประหารกันที่วัดโคกหรือวัดพลับพลาชัย
เมื่อมีงานพระบรมศพ เมื่อเก็บพระบรมอัฐิ แล้วก็เชิญพระอังคารลงเรือบุษบก หรือศรี ตั้งกระบวนแห่มีกลองชนะ ไปลอยอังคารที่วัดสำเพ็ง
ช้างเผือกล้มก็ทำเช่นเดียวกัน เขาจะเอาผ้าขาวห่อช้างที่ตาย มีเรือดั้งเรือกัน แห่เอาไปถ่วงที่หน้าวัดสำเพ็ง
พิจารณาตามเค้าเดิมนี้ ส.พลายน้อย บอกว่า น่าคิดว่า บริเวณนั้น หน้าวัดแต่ก่อนคงจะเป็นที่น้ำลึก ส่วนบนบกก็น่าจะเป็นทางสามแพร่ง คำสามแพร่งชาวจีน อาจเรียกเพี้ยนเป็น สำแพง และสำเพ็งไปก็ได้
ข้อสันนิษฐานนี้ ขุนวิจิตรมาตราแย้งว่า สำเพ็งไม่น่าจะมาจากคำว่า สามแพร่ง แต่น่าจะมาจากคำว่า "สามปลื้ม" มากกว่า ลิ้นคนจีนพูดคำสามปลื้มไม่ชัด จึงเพี้ยนมา เป็น "สำเพ็ง"
ส.พลายน้อยปลงทิ้งท้าย...คิดๆดูก็แปลก ชั่วเวลา 200 ปี ไม่มีใครรู้ความหมายของคำว่า "สำเพ็ง" ว่ามาจากอะไรเสียแล้ว.
กลุ่มทุน"สำเพ็ง2"บุกค้าปลีกเต็มตัว เตรียมเข้าตลาดหุ้น/เปิดคอมมิวนิตี้มอลล์เสริมทัพ
กลุ่มทุน"สำเพ็ง2"บุกค้าปลีกเต็มตัว เตรียมเข้าตลาดหุ้น/เปิดคอมมิวนิตี้มอลล์เสริมทัพ
กลุ่ม ทุนอสังหาฯ เจ.เอส.พี.กรุ๊ป ติดใจโมเดลค้าปลีกหลังนำร่องโครงการสำเพ็ง 2 ดีมานด์ทะลัก ไล่เก็บพื้นที่เพิ่มส่งคอนเซ็ปต์ตลาดน้ำ-คอมมิวนิตี้มอลล์ เสริมอาณาจักร 120 ไร่บนถนนกัลปพฤกษ์ เพิ่มทีมงานเปิด "คอมมิวนิตี้ มอลล์" 3 แห่งรวด เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดต้นปีหน้า
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี.กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงการภายในองค์กรเพื่อรับการแข่งขันและการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะการขยายไลน์ธุรกิจมาสู่รูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สำหรับ ตลาดค้าปลีกมากขึ้น ซึ่งจะนำร่องเปิดโมเดลคอมมิวนิตี้มอลล์ใน 3 สาขาแรก คือ ส่วนต่อขยายในโครงการสำเพ็ง 2, คอมมิวนิตี้มอลล์ที่อ้อมน้อย จ.นครปฐม และอีก 1 แห่งที่บางปู จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมที่จะเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้น โดยอยู่ระหว่างการเลือกที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงกลางปีหน้า และกระจายหุ้นได้ในช่วงปลายปีสำหรับนำมาลงทุนและขยายธุรกิจ ซึ่งจะเริ่มพัฒนาในส่วนต่อขยายโครงการสำเพ็ง 2 มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 120 ไร่ หลังจากเฟสแรกขายพื้นที่ไปเกือบหมดแล้ว
คีย์ แมนสำเพ็ง 2 กล่าวว่า จะเริ่มลงมือก่อสร้างในเฟส 2 ที่เป็นฝั่งตรงข้ามเพื่อพัฒนาเป็นโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียม รวมถึงพื้นที่คอมมิวนิตี้มอลล์เต็มรูปแบบ และมีตลาดน้ำ 5 ภาค, นิว ไซน่า ทาวน์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าไปใช้บริการ หลังจากนั้น จะเป็นการพัฒนาโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ไปพร้อมกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของบริษัทที่อ้อมน้อย จ.นครปฐม และเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่ ออกไปโดยรอบ โดยเฉพาะตามเส้นทางรถไฟฟ้า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ "เดอะไมอามี่" ซึ่งมีทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวรวมในพื้นที่เดียวกัน 120 ไร่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในสมุทรปราการ ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีมูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท
กลุ่ม ทุนอสังหาฯ เจ.เอส.พี.กรุ๊ป ติดใจโมเดลค้าปลีกหลังนำร่องโครงการสำเพ็ง 2 ดีมานด์ทะลัก ไล่เก็บพื้นที่เพิ่มส่งคอนเซ็ปต์ตลาดน้ำ-คอมมิวนิตี้มอลล์ เสริมอาณาจักร 120 ไร่บนถนนกัลปพฤกษ์ เพิ่มทีมงานเปิด "คอมมิวนิตี้ มอลล์" 3 แห่งรวด เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดต้นปีหน้า
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี.กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงการภายในองค์กรเพื่อรับการแข่งขันและการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะการขยายไลน์ธุรกิจมาสู่รูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สำหรับ ตลาดค้าปลีกมากขึ้น ซึ่งจะนำร่องเปิดโมเดลคอมมิวนิตี้มอลล์ใน 3 สาขาแรก คือ ส่วนต่อขยายในโครงการสำเพ็ง 2, คอมมิวนิตี้มอลล์ที่อ้อมน้อย จ.นครปฐม และอีก 1 แห่งที่บางปู จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมที่จะเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้น โดยอยู่ระหว่างการเลือกที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงกลางปีหน้า และกระจายหุ้นได้ในช่วงปลายปีสำหรับนำมาลงทุนและขยายธุรกิจ ซึ่งจะเริ่มพัฒนาในส่วนต่อขยายโครงการสำเพ็ง 2 มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 120 ไร่ หลังจากเฟสแรกขายพื้นที่ไปเกือบหมดแล้ว
คีย์ แมนสำเพ็ง 2 กล่าวว่า จะเริ่มลงมือก่อสร้างในเฟส 2 ที่เป็นฝั่งตรงข้ามเพื่อพัฒนาเป็นโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียม รวมถึงพื้นที่คอมมิวนิตี้มอลล์เต็มรูปแบบ และมีตลาดน้ำ 5 ภาค, นิว ไซน่า ทาวน์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าไปใช้บริการ หลังจากนั้น จะเป็นการพัฒนาโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ไปพร้อมกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของบริษัทที่อ้อมน้อย จ.นครปฐม และเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่ ออกไปโดยรอบ โดยเฉพาะตามเส้นทางรถไฟฟ้า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ "เดอะไมอามี่" ซึ่งมีทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวรวมในพื้นที่เดียวกัน 120 ไร่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในสมุทรปราการ ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีมูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท
ประวัติสำเพ็งโดยย่อ!
สำเพ็ง ที่รู้จักกันดีในปัจจุบันก็คือถนนเศรษฐกิจที่สำคัญ ชื่อว่า "ถนนวานิช 1" ซึ่งก็ตั้งอยู่ใกล้ๆในแถบถิ่นย่านเยาวราชนั่นเอง โดยก่อนที่จะมาเป็นสำเพ็งอย่างที่เห็นในตอนนี้ เมื่อในอดีตนั้นนับได้ว่าสำเพ็งมีประวัติศาสตร์เคียงคู่กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เพราะแต่เดิมนั้นบรรพบุรุษของชุมชนชาวสำเพ็งตั้งถิ่นฐานกันอยู่ในพื้นที่ที่จะสร้างเป็นพระนครใหม่ด้านฝั่งตะวันออก
สำเพ็ง แหล่งการค้าของชาวจีนแห่งแรกในกรุงเทพฯ เกิดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนย้ายถิ่นฐานจากบริเวณท่าเตียนไปอยู่ ณ ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสำเพ็งชาวจีนได้ตั้งหลักสร้างชุมชนและย่านการค้าจนรุ่งเรืองจนขยายพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขวาง
สำเพ็งในขณะนั้นจัดเป็นตลาดบกที่ใหญ่ที่สุดในพระนครสินค้าที่นำมาจำหน่ายจึงมีมากมายหลายประเภท เช่น เครื่องกระดาษ ของไหว้เจ้า อาหารแห้ง ปลาเค็ม ฯลฯ และด้วยความเป็นแหล่งการค้า มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นจึงทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้อยู่บ่อยครั้ง ในปี พ.ศ. 2434 รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ถ.เยาวราชแทรกระหว่าง ถ.เจริญกรุงกับ ถ.สำเพ็ง พร้อมกับได้สร้างตึกขึ้นตลอดแนวสองฝั่งถนน ทำให้เกิดศูนย์กลางธุรกิจและการค้าแห่งใหม่บนถนนสายนี้ และเมื่อมีการตัดถนนสายอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ทรงวาด ราชวงศ์ อนุวงศ์ ฯลฯ ขอบเขตที่เป็นใจกลางการค้าของสำเพ็งก็ถูกบีบให้ลดลงเหลืออยุ่เพียงแนว ถ.สำเพ็ง หรือที่เปลี่ยนชื่อเป็น ถ.วานิช 1 ในปัจจุบันเท่านั้น
ปัจจุบันสำเพ็งเป็นตลาดขายส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บนพื้นที่ไม่มากเท่าไหร่นี้ประกอบไปด้วยสินค้านานาชนิด เช่น ต่างหู กิฟต์ติดผม ที่คาดผม กรอบรูป อัลบั้มรูป ผ้าขนหนู สินค้ากิ๊ฟช็อปทุกชนิด ของเล่น ตุ๊กตา ของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ
สำเพ็ง แหล่งการค้าของชาวจีนแห่งแรกในกรุงเทพฯ เกิดขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนย้ายถิ่นฐานจากบริเวณท่าเตียนไปอยู่ ณ ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสำเพ็งชาวจีนได้ตั้งหลักสร้างชุมชนและย่านการค้าจนรุ่งเรืองจนขยายพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขวาง
สำเพ็งในขณะนั้นจัดเป็นตลาดบกที่ใหญ่ที่สุดในพระนครสินค้าที่นำมาจำหน่ายจึงมีมากมายหลายประเภท เช่น เครื่องกระดาษ ของไหว้เจ้า อาหารแห้ง ปลาเค็ม ฯลฯ และด้วยความเป็นแหล่งการค้า มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นจึงทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้อยู่บ่อยครั้ง ในปี พ.ศ. 2434 รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ถ.เยาวราชแทรกระหว่าง ถ.เจริญกรุงกับ ถ.สำเพ็ง พร้อมกับได้สร้างตึกขึ้นตลอดแนวสองฝั่งถนน ทำให้เกิดศูนย์กลางธุรกิจและการค้าแห่งใหม่บนถนนสายนี้ และเมื่อมีการตัดถนนสายอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ทรงวาด ราชวงศ์ อนุวงศ์ ฯลฯ ขอบเขตที่เป็นใจกลางการค้าของสำเพ็งก็ถูกบีบให้ลดลงเหลืออยุ่เพียงแนว ถ.สำเพ็ง หรือที่เปลี่ยนชื่อเป็น ถ.วานิช 1 ในปัจจุบันเท่านั้น
ปัจจุบันสำเพ็งเป็นตลาดขายส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บนพื้นที่ไม่มากเท่าไหร่นี้ประกอบไปด้วยสินค้านานาชนิด เช่น ต่างหู กิฟต์ติดผม ที่คาดผม กรอบรูป อัลบั้มรูป ผ้าขนหนู สินค้ากิ๊ฟช็อปทุกชนิด ของเล่น ตุ๊กตา ของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ
ดัน"สำเพ็ง2"เป็น"นิวไชน่าทาวน์" เจเอสพีมั่นใจปีแรกลูกค้าติดตลาดชัวร์
ดัน"สำเพ็ง2"เป็น"นิวไชน่าทาวน์" เจเอสพีมั่นใจปีแรกลูกค้าติดตลาดชัวร์
เจเอสพีตั้งเป้าดันสำเพ็ง 2 ขึ้นเป็นนิวไชน่าทาวน์ รองรับนักท่องเที่ยวคนจีน หลังประสบผลสำเร็จขายเกลี้ยงทั้งโครงการ เล็งหาที่ดินเพิ่มพัฒนาต่อเนื่อง พร้อมเปิดแผนลงทุนปีหน้ามูลค่าหมื่นล้านบาท เดินหน้าแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงกลางปี 2557 และกระจายหุ้นได้ในช่วงปลายปีเดียวกัน โดยบริษัทมีแผนที่จะกระจายหุ้นประมาณ 25% คิดเป็นจำนวนหุ้น 500 ล้านหุ้น ตั้งเป้ารายได้จากการกระจายหุ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท ราคาพาร์ 1 บาท ตั้งเป้าราคาไอพีโอไว้ที่ประมาณ 8-10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำรายได้ดังกล่าวมาใช้เพื่อการลงทุนหรือขยายการพัฒนาธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานนั้น ในปีนี้บริษัทจะเน้นให้น้ำหนักการพัฒนาโครงการสำเพ็ง 2 เป็นหลัก แม้ว่าจะสามารถปิดการขายทั้งหมดแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะซื้อที่ดินในบริเวณเดียวกันเพิ่มเติมอีกประมาณ 40 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียมด้วย คาดว่าจะเริ่มโอนได้ภายในปีหน้า ทั้งนี้นอกจากจะมีพื้นที่สำหรับค้าส่งและค้าปลีกแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับโซนท่องเที่ยวตลาดน้ำ 5 ภาค และมีคอมมูนิตี้มอลล์ด้วย เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าไปใช้บริการ โดยในอนาคตมีแผนที่จะผลักดันโครงการสำเพ็ง 2 เป็นนิวไชน่าทาวน์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคนจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยมั่นใจว่าโครงการจะติดตลาดได้ภายในปีแรกที่เปิดให้บริการ นอกจากนี้ล่าสุดได้ไปซื้อแปลงที่ดินเปล่าในหมู่บ้านแกรนด์ ศศิธร ย่านเพชรเกษม 69 แปลงละประมาณ 100 ตารางวา ประมาณ 23 แปลง เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขายในราคาประมาณ 6 ล้านบาทด้วย
นายทนงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้านั้นตั้งเป้าพัฒนาโครงการไว้ประมาณ 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่บริเวณถนนสุขุมวิท 2 โครงการคือโครงการโค้งโพธิ์ คอนโดมิเนียมบนเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ ย่านสมุทรปราการ โดยตั้งอยู่ที่สุขุมวิทสายเก่า ราคาขายยูนิตละเกือบ 2 ล้านบาท และโครงการเดอะไมอามี่ พื้นที่ 120 ไร่ในย่านเดียวกัน ซึ่งมีทั้งทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมนั้นจะพัฒนาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในสมุทรปราการ และโครงการสุดท้ายคือโครงการอ้อมน้อยเซ็นเตอร์ ซึ่งภายในโครงการมีทั้งอาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียมและช็อปปิ้งมอลล์
นายทนงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทนั้น ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกสามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 3,600 ล้านบาท ตั้งเป้ารายรับหรือยอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 2557 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 3,700-4,000 ล้านบาท และในปี 2558 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท
เจเอสพีตั้งเป้าดันสำเพ็ง 2 ขึ้นเป็นนิวไชน่าทาวน์ รองรับนักท่องเที่ยวคนจีน หลังประสบผลสำเร็จขายเกลี้ยงทั้งโครงการ เล็งหาที่ดินเพิ่มพัฒนาต่อเนื่อง พร้อมเปิดแผนลงทุนปีหน้ามูลค่าหมื่นล้านบาท เดินหน้าแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางด้านการเงิน เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงกลางปี 2557 และกระจายหุ้นได้ในช่วงปลายปีเดียวกัน โดยบริษัทมีแผนที่จะกระจายหุ้นประมาณ 25% คิดเป็นจำนวนหุ้น 500 ล้านหุ้น ตั้งเป้ารายได้จากการกระจายหุ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท ราคาพาร์ 1 บาท ตั้งเป้าราคาไอพีโอไว้ที่ประมาณ 8-10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำรายได้ดังกล่าวมาใช้เพื่อการลงทุนหรือขยายการพัฒนาธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1,500 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานนั้น ในปีนี้บริษัทจะเน้นให้น้ำหนักการพัฒนาโครงการสำเพ็ง 2 เป็นหลัก แม้ว่าจะสามารถปิดการขายทั้งหมดแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะซื้อที่ดินในบริเวณเดียวกันเพิ่มเติมอีกประมาณ 40 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียมด้วย คาดว่าจะเริ่มโอนได้ภายในปีหน้า ทั้งนี้นอกจากจะมีพื้นที่สำหรับค้าส่งและค้าปลีกแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับโซนท่องเที่ยวตลาดน้ำ 5 ภาค และมีคอมมูนิตี้มอลล์ด้วย เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าไปใช้บริการ โดยในอนาคตมีแผนที่จะผลักดันโครงการสำเพ็ง 2 เป็นนิวไชน่าทาวน์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคนจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยมั่นใจว่าโครงการจะติดตลาดได้ภายในปีแรกที่เปิดให้บริการ นอกจากนี้ล่าสุดได้ไปซื้อแปลงที่ดินเปล่าในหมู่บ้านแกรนด์ ศศิธร ย่านเพชรเกษม 69 แปลงละประมาณ 100 ตารางวา ประมาณ 23 แปลง เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขายในราคาประมาณ 6 ล้านบาทด้วย
นายทนงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้านั้นตั้งเป้าพัฒนาโครงการไว้ประมาณ 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่บริเวณถนนสุขุมวิท 2 โครงการคือโครงการโค้งโพธิ์ คอนโดมิเนียมบนเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ ย่านสมุทรปราการ โดยตั้งอยู่ที่สุขุมวิทสายเก่า ราคาขายยูนิตละเกือบ 2 ล้านบาท และโครงการเดอะไมอามี่ พื้นที่ 120 ไร่ในย่านเดียวกัน ซึ่งมีทั้งทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมนั้นจะพัฒนาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในสมุทรปราการ และโครงการสุดท้ายคือโครงการอ้อมน้อยเซ็นเตอร์ ซึ่งภายในโครงการมีทั้งอาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียมและช็อปปิ้งมอลล์
นายทนงศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทนั้น ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกสามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 3,600 ล้านบาท ตั้งเป้ารายรับหรือยอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 2557 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 3,700-4,000 ล้านบาท และในปี 2558 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท
ดันสำเพ็ง2เข้าตลาดปีหน้า ระดม4พันล้าน
ดันสำเพ็ง2เข้าตลาดปีหน้า ระดม4พันล้าน
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการ "สำเพ็ง 2" เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อระดมทุนประมาณ 3-4 พันล้านบาท สำหรับก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ คาดว่าจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ได้ในช่วงเดือนพ.ค. ปี 2557 นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมช่องทางระดมทุนด้านอื่นๆ ไว้รองรับหากบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้ออำนวย โดยมีการศึกษาแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 1 เท่า
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท มีทุนจดทะเบียน 1.5 พันล้านบาท มีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท รวมเป็น 2 พันล้านบาท โดยหลังการเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตนจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนเกิน 50% สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทมีการเติบโตของรายได้ประมาณ 10-15% ต่อปี
โดยปี 2556 คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท แต่ในปี 2557 คาดว่ารายได้จะโตเป็น 4 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 6 พันล้านบาทในปี 2558 จากยอดขายของโครงการสำเพ็ง 2 ซึ่งเป็นศูนย์การค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 140 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดแล้ว แบ่งเป็นอาคารพาณิชย์ในส่วนสำเพ็ง 2 จำนวน 509 ยูนิต มูลค่า 4.5 พันล้านบาท และส่วนของสำเพ็ง 2 เซ็นเตอร์ จำนวน 414 ยูนิต มูลค่า 3.5 พันล้านบาท
"บริษัทสนใจเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะจะทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการลดลง สามารถแข่งขันได้ และทำให้ระบบการดำเนินธุรกิจมีความเป็นสากลมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันบริษัทจะไม่มีปัญหาสภาพคล่อง เพราะว่ามีธนาคารพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนวงเงินกู้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากการเข้าตลาดแล้ว การออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่บริษัทสนใจ"
นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทมีจุดเด่นของบริษัท คือ การทำตลาดเฉพาะกลุ่ม ไม่เน้นพัฒนาในส่วนที่มีการแข่งขันรุนแรง ทำให้บริษัทไม่กังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทมีกำลังซื้อ เห็นได้จากโครงการสำเพ็ง 2 ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากเยาวราช สำเพ็ง ซื้อด้วยเงินสดมากกว่าการกู้จากธนาคาร ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลว่าจะเกิดฟองสบู่ เพราะตลาดของบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ
สำหรับโครงการลงทุนในอนาคตของบริษัท มี 3 โครงการ คือ 1.โครงการสำเพ็ง 2 เซ็นเตอร์ บนทำเลถนนสาทร-กัลปพฤกษ์ 2.โครงการ เดอะไมอามี่ จำนวน 120 ไร่ ทำเลถนนสุขุมวิทสายเก่า หรือ บางปู ซึ่งมีแผนจะพัฒนาโครงการเป็นอาคารพาณิชย์, คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท โดยโครงการ เดอะ ไมอามี่ จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่พักตากอากาศติดทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด 3.โครงการอ้อมน้อยสแควร์ (แยกพุทธสาคร) ทำเลพุทธมณฑลสาย 4 ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ 142 ยูนิต และคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ 5 อาคาร จำนวน 812 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการ ไว้อีกหลายทำเล ที่อยู่ในระหว่างออกแบบโครงการ อาทิ ที่ดินทำเลติดถนนสุขุมวิทสายเก่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ติดสถานีสายลวด จำนวน 18 ไร่ และยังมีที่ดินแปลงใหญ่ติดชายทะเล จังหวัดภูเก็ต อีกกว่า 80 ไร่ ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะขึ้นโครงการตามหัวเมืองใหญ่ เช่น อุดรธานีและขอนแก่น ซึ่งมองว่าเป็นทำเลที่จะได้รับผลดีจากการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการ "สำเพ็ง 2" เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อระดมทุนประมาณ 3-4 พันล้านบาท สำหรับก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ คาดว่าจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ได้ในช่วงเดือนพ.ค. ปี 2557 นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมช่องทางระดมทุนด้านอื่นๆ ไว้รองรับหากบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้ออำนวย โดยมีการศึกษาแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 1 เท่า
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท มีทุนจดทะเบียน 1.5 พันล้านบาท มีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท รวมเป็น 2 พันล้านบาท โดยหลังการเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ตนจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนเกิน 50% สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทมีการเติบโตของรายได้ประมาณ 10-15% ต่อปี
โดยปี 2556 คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท แต่ในปี 2557 คาดว่ารายได้จะโตเป็น 4 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 6 พันล้านบาทในปี 2558 จากยอดขายของโครงการสำเพ็ง 2 ซึ่งเป็นศูนย์การค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 140 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดแล้ว แบ่งเป็นอาคารพาณิชย์ในส่วนสำเพ็ง 2 จำนวน 509 ยูนิต มูลค่า 4.5 พันล้านบาท และส่วนของสำเพ็ง 2 เซ็นเตอร์ จำนวน 414 ยูนิต มูลค่า 3.5 พันล้านบาท
"บริษัทสนใจเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะจะทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการลดลง สามารถแข่งขันได้ และทำให้ระบบการดำเนินธุรกิจมีความเป็นสากลมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันบริษัทจะไม่มีปัญหาสภาพคล่อง เพราะว่ามีธนาคารพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนวงเงินกู้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากการเข้าตลาดแล้ว การออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่บริษัทสนใจ"
นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทมีจุดเด่นของบริษัท คือ การทำตลาดเฉพาะกลุ่ม ไม่เน้นพัฒนาในส่วนที่มีการแข่งขันรุนแรง ทำให้บริษัทไม่กังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทมีกำลังซื้อ เห็นได้จากโครงการสำเพ็ง 2 ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากเยาวราช สำเพ็ง ซื้อด้วยเงินสดมากกว่าการกู้จากธนาคาร ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลว่าจะเกิดฟองสบู่ เพราะตลาดของบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ
สำหรับโครงการลงทุนในอนาคตของบริษัท มี 3 โครงการ คือ 1.โครงการสำเพ็ง 2 เซ็นเตอร์ บนทำเลถนนสาทร-กัลปพฤกษ์ 2.โครงการ เดอะไมอามี่ จำนวน 120 ไร่ ทำเลถนนสุขุมวิทสายเก่า หรือ บางปู ซึ่งมีแผนจะพัฒนาโครงการเป็นอาคารพาณิชย์, คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ และ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท โดยโครงการ เดอะ ไมอามี่ จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่พักตากอากาศติดทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด 3.โครงการอ้อมน้อยสแควร์ (แยกพุทธสาคร) ทำเลพุทธมณฑลสาย 4 ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ 142 ยูนิต และคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ 5 อาคาร จำนวน 812 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการ ไว้อีกหลายทำเล ที่อยู่ในระหว่างออกแบบโครงการ อาทิ ที่ดินทำเลติดถนนสุขุมวิทสายเก่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ติดสถานีสายลวด จำนวน 18 ไร่ และยังมีที่ดินแปลงใหญ่ติดชายทะเล จังหวัดภูเก็ต อีกกว่า 80 ไร่ ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะขึ้นโครงการตามหัวเมืองใหญ่ เช่น อุดรธานีและขอนแก่น ซึ่งมองว่าเป็นทำเลที่จะได้รับผลดีจากการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558
อีสำเพ็ง ใครกันที่ถูกเรียก?
อีสำเพ็ง ใครกันที่ถูกเรียก?
สำเพ็งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวจีนมาแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่นิยมทำการค้าขายเป็นอาชีพหลักแล้วยังเป็นย่านของโสเภณีด้วย ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่าโรงหญิงนครโสเภณี (มีมาตั้งแต่สมัยอยูธยาตามบันทึก) ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีทั่วไปแทบทุกตรอกซอกซอย แต่ที่มีนักเที่ยวไปใช้บริการกันคับคั่งคือที่ ตรอกเต๊า โรงยายแฟง โรงแม่กลีบ โรงแม่เต้า ยายแฟงเป็นแม่เล้าใจบุญ ได้นำเงินไปสร้างวัดใหม่ขึ้นวัดหนึ่งที่ตรอกวัดโคก ชาวบ้านเรียก วัดใหม่ยายแฟง หรือ วัดคณิกาผล ส่วนแม่กลีบได้สร้างวัดที่ปากตรอกเต๊า เรียก วัดกันมาตุยาราม
ภาพสำเพ็งในอดีต
คำว่า "สำเพ็ง" บางครั้งก็จะอ่านเป็นเสียงยาวว่า "สามแพร่ง" ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน ขึ้นอยู่กับคนพูดว่าถนัดแบบไหนมากกว่า ในบริเวณนั้นมีวัดซึ่งมีชื่อเกี่ยวกับ "สาม" ทั้งนั้น เช่น วัดสามจีน (วัดไตรมิตร) วัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิ) และวัดสามเพ็ง สมัยก่อนคนเชียงใหม่จะมาหาโสเภณีจากสำเพ็ง ไปหากินทางเชียงใหม่ คนเมืองเหนือจึงเรียกหญิงโสเภณีเหล่านี้ ว่า "คนสำเพ็ง" หรือ "อีสำเพ็ง" ซึ่งก็หมายถึงผู้หญิงขายประเวณี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหญิงกวางตุ้ง
ด้วยเหตุนี้จึงมีคำด่าหญิงโสเภณีหรือหญิงที่ประพฤติตัวไม่ดีว่า “อีสำเพ็ง” ส่วนคนจีนจะเรียกหญิงโสเภณีที่เป็นคนจีนว่า “หยำฉ่า” คำเรียกนี้ แม้ปัจจุบันจะได้พัฒนามาใช้คำอื่นแทนแล้วก็ตาม เช่น ออหรี่ ช็อกการี อีตัว ผู้หญิงหาเงิน ผู้หญิงขายตัว ผู้หญิงอาชีพพิเศษ คุณโส ฯลฯ แล้วแต่จะสารพัดสรรกันมาเรียก แต่คำว่าหญิงหยำฉ่า หรือแม่สำเพ็งก็ยังเป็นที่รับรู้ในความหมายของคนยุคนี้เป็นอันดี
สำเพ็งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวจีนมาแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่นิยมทำการค้าขายเป็นอาชีพหลักแล้วยังเป็นย่านของโสเภณีด้วย ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่าโรงหญิงนครโสเภณี (มีมาตั้งแต่สมัยอยูธยาตามบันทึก) ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีทั่วไปแทบทุกตรอกซอกซอย แต่ที่มีนักเที่ยวไปใช้บริการกันคับคั่งคือที่ ตรอกเต๊า โรงยายแฟง โรงแม่กลีบ โรงแม่เต้า ยายแฟงเป็นแม่เล้าใจบุญ ได้นำเงินไปสร้างวัดใหม่ขึ้นวัดหนึ่งที่ตรอกวัดโคก ชาวบ้านเรียก วัดใหม่ยายแฟง หรือ วัดคณิกาผล ส่วนแม่กลีบได้สร้างวัดที่ปากตรอกเต๊า เรียก วัดกันมาตุยาราม
ภาพสำเพ็งในอดีต
คำว่า "สำเพ็ง" บางครั้งก็จะอ่านเป็นเสียงยาวว่า "สามแพร่ง" ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน ขึ้นอยู่กับคนพูดว่าถนัดแบบไหนมากกว่า ในบริเวณนั้นมีวัดซึ่งมีชื่อเกี่ยวกับ "สาม" ทั้งนั้น เช่น วัดสามจีน (วัดไตรมิตร) วัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิ) และวัดสามเพ็ง สมัยก่อนคนเชียงใหม่จะมาหาโสเภณีจากสำเพ็ง ไปหากินทางเชียงใหม่ คนเมืองเหนือจึงเรียกหญิงโสเภณีเหล่านี้ ว่า "คนสำเพ็ง" หรือ "อีสำเพ็ง" ซึ่งก็หมายถึงผู้หญิงขายประเวณี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหญิงกวางตุ้ง
ด้วยเหตุนี้จึงมีคำด่าหญิงโสเภณีหรือหญิงที่ประพฤติตัวไม่ดีว่า “อีสำเพ็ง” ส่วนคนจีนจะเรียกหญิงโสเภณีที่เป็นคนจีนว่า “หยำฉ่า” คำเรียกนี้ แม้ปัจจุบันจะได้พัฒนามาใช้คำอื่นแทนแล้วก็ตาม เช่น ออหรี่ ช็อกการี อีตัว ผู้หญิงหาเงิน ผู้หญิงขายตัว ผู้หญิงอาชีพพิเศษ คุณโส ฯลฯ แล้วแต่จะสารพัดสรรกันมาเรียก แต่คำว่าหญิงหยำฉ่า หรือแม่สำเพ็งก็ยังเป็นที่รับรู้ในความหมายของคนยุคนี้เป็นอันดี
สำเพ็ง หรือไชน่าทาวน์ของเมืองไทย
สำเพ็ง สำเพ็ง
สำเพ็ง หรือไชน่าทาวน์ของเมืองไทย มีชาวจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก ในสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) มีพระราชประสงค์ จะสร้างเมืองใหม่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนย้ายไปอยู่ในท้องที่วัดสำเพ็ง ภายหลังได้พระราชทานนามว่า "วัดปทุมคงคา" ซึ่งเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในสมัยนั้น ต่อมาท้องที่บริเวณนั้นจึงถูกเรียกว่า "สำเพ็ง"
คำว่า "สำเพ็ง" บางครั้งก็จะอ่านเป็นเสียงยาวว่า "สามแพร่ง" ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน ขึ้นอยู่กับคนพูดว่าถนัดแบบไหนมากกว่า ในบริเวณนั้น มีวัดซึ่งมีชื่อเกี่ยวกับ "สาม" ทั้งนั้น เช่น วัดสามจีน (วัดไตรมิตร) วัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิ) และวัดสามเพ็ง สมัยก่อนคนเชียงใหม่จะมาหาโสเภณีจากสำเพ็ง ไปหากินทางเชียงใหม่ คนเมืองเหนือจึงเรียกหญิงโสเภณีเหล่านี้ ว่า "คนสำเพ็ง" หรือ "อีสำเพ็ง" ซึ่งก็หมายถึงผู้หญิงขายประเวณี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหญิงกวางตุ้ง มีชาวจีนผู้หนึ่งเล่าว่า ที่เมืองกวางตุ้งในสมัยโบราณนั้น มีผู้หญิง 2 ประเภท คือ พวกที่ถือความบริสุทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ ใครแต่งงานและได้รับการต้อนรับ จากพ่อแม่สามีอย่างดี ก็ถือว่าเป็นผู้หญิงดี มีหน้ามีตา วิธีสังเกตก็คือ ตามธรรมเนียมเมื่อแต่งงานแล้ว ผู้เป็นภรรยาจะต้องไปเยี่ยมบ้านสามี เพื่อกราบไหว้พ่อแม่ของสามี แล้วจึงกลับมาบ้านตนอีกครั้ง ถ้าตอนกลับมาของหญิงสาวนั้น มีขบวนแห่ใหญ่โตกลับมาด้วย ก็แสดงว่าหญิงผู้นั้นบริสุทธิ์ เป็นคนมีเกียรติ และได้รับการต้อนรับจากพ่อแม่สามีอย่างดี แต่หากกลับบ้านมาอย่างเงียบเชียบ ชาวบ้านก็จะเล่าลือว่า หญิงนั้น เป็นคนไม่ดี ไม่บริสุทธิ์ ชาวจีนจึงมีสุภาษิตว่า "มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน" ส่วนอีกประเภทหนึ่ง ถือว่า เรื่องความบริสุทธิ์ เป็นเรื่องเล็ก หญิงคนไหนยิ่งผ่านชายมามาก ยิ่งเป็นคนดี มีคนต้องการกันมาก การที่มีธรรมเนียมเช่นนี้ เพราะในสมัยนั้น เมืองกวางตุ้ง มีโรคร้ายชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงวัยรุ่นทุกคนต้องเป็น หญิงที่มีอายุพอจะแต่งงานได้แล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน หรือยังบริสุทธิ์อยู่ก็จะเป็นโรคร้ายนี้ และทำให้ถึงแก่ความตาย เพราะโรคนี้รักษาไม่หาย มีวิธีเดียว คือ "การถ่ายโรค" โดยผู้เป็นพ่อ จะมีหน้าที่หาผู้ชาย ที่สมัครใจมาเป็นสามีชั่วคราวให้กับลูกสาวตน เพื่อ "ถ่ายโรค" ไป ถือกันว่า หญิงสาวที่ผ่านชายมามาก จะปราศจากโรค และเป็นที่ต้องการของผู้ชายบ้านเดียวกัน ดังนั้น ผู้ชายที่จะมาถ่ายโรคนั้น จึงมักเป็นคนมาจากแดนอื่นที่ไม่รู้ธรรมเนียม มีการสันนิษฐานกันว่า ในสมัยนั้น หญิงสาวชาวกวางตุ้ง คงจะหาคนมาถ่ายโรคไม่ได้ จึงได้เร่ร่อนมาเมืองไทย และตั้งสำนักขึ้นในย่านสำเพ็ง
ดูเพิ่มเติม <<คลิก>>
สำเพ็ง
สำเพ็งสมัยสร้างกรุงเทพฯ ใหม่ ๆ มีการประหารนักโทษที่เป็นเจ้านาย ก็จะประหารกันที่วัดสำเพ็ง หากประหารผู้ร้าย ก็จะใช้บริเวณวัดโคก หรือ วัดพลับพลาชัย ส่วนในงานพระบรมศพนั้น เมื่อเก็บพระบมอัฐิแล้ว ก็เิชิญพระอังคารลงเรือบุษบก เรือศรีตั้งกระบวนแห่มีกลองชนะไปที่วัดสำเพ็ง แล้วเอาพระอังคารลอยที่นั่น และเมื่อช้างเผือกล้ม ก็จะเอาผ้าขาวห่อช้างที่ตาย เอาไปถ่วงที่วัดสำเพ็ง โดยใช้เรือตั้งเรือกันแห่ลากไป
นอกจากนี้ ยังมีการสันนิษฐานว่า สำเพ็งสมัยก่อน อาจเป็นทาง "สามแพร่ง" ที่คนโบราณถือว่า เวลาเขาทำบัตรพลีบวงสรวงอะไร ก็มักจะเอาเครื่องบัตรพลี หรือเครื่องเสียเคราะห์เสียกบาล ไปแขวนตามต้นไม้ หรือวางไว้แถวทางสามแพร่ง ต่อมาชาวจีนพูดเพี้ยน เป็นสำเพ็ง และ "สำเพ็ง" ในปัจจุบัน
ในอดีต สำเพ็งเป็นที่รวมของคนจีนหลายเชื้อชาติ ทังแต้จิ๋ว ไหหลำ กวางตุ้ง ที่เข้ามาเมืองไทย โดยเรือสำเภา ตามบันทึกของหมอเฮาส์ เมื่อคนจีนเหล่านั้น เข้ามาเมืองสยาม ก็ประกอบอาชีพค้าขาย จนร่ำรวยเป็นเศรษฐี บางคนได้รับการแต่งตั้งเป็นขันนางที่มีชื่อเสียง ปรากฏในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะคนจีนในย่านสำเพ็งนั้น มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินเป็นพิเศษ ในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจาอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จสำเพ็งแทบทุกปี เพราะทรงมีพระราชดำริให้บรรดาไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ทั้งไทยจีน มีโอกาสเฝ้าอย่างเสมอหน้า จึีงโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการพระราชทานกฐินหลวงผ่านถนนสำเพ็งเป็นประจำ เริ่มแรกตำรวจ จะสั่งห้ามชาวจีนออกมารับเสด็จ ให้ซ่อนตัวอยู่ในร้าน แต่พระองค์ ทรงเห็นว่า เป็นธรรมเนียมที่ล้าสมัย และการกระทำเช่นนี้ ดูราวกับว่าเป็นคนขลาด จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีในสำเพ็งเฝ้าอย่างใกล้ชิด และทรงทักทายอย่งไม่ถือพระองค์ ทำให้ชาวจีนสมัยนั้น เพิ่มความจงรักภักดีขึ้นเป็นอย่างมาก
สำเพ็งในปัจจุบันนี้ ยังคงเป็นย่านค้าส่งของคนจีน และได้รับการดูแลจากเทศบาลอย่างดี ทำให้มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และถนนหนทางดีกว่าสมัยก่อน
ข้อคิดเห็น 4 ประการ สำหรับผู้ที่จะไปตลาดสำเพ็ง
บทนี้ผมขอเล่าถึงอีกตลาดหนึ่งที่ผมเดินทางไปบ่อยที่สุดในบรรดาหลายๆตลาด
ตลาดที่ว่าตั้งอยู่ใน … กรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ นั่นคือ “ตลาดสำเพ็ง”
ผมมาตลาดสำเพ็งทุกเดือนเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย ถ้าช่วงหน้าเทศกาลก็มาบ่อยหน่อย
จะไม่มาได้ไง ผมเปิดร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปถ้าไม่มาที่นี่แล้วจะไปที่ไหน 555+
ตลาดสำเพ็งขึ้นชื่อเลยว่าเป็นแหล่งค้าส่งสินค้ากิ๊ฟช็อปมากมาย มีสินค้าหลากหลาย
ตุ๊กตาลิขสิทธิ์แท้ ตุ๊กตาเทียมราคาถูก ของเล่นเด็ก เครื่องประดับความงาม นาฬิกาถูกๆ
กิ๊บติดผม กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด อุปกรณ์จิปาถะใช้ในบ้าน ถ้วยโถโอชาม ช้อน กาละมัง
สินค้าตามเทศการเช่น วันวาเลนไทน์ ตรุษจีน วันแม่ ฯลฯ และ มีร้านค้าส่งเครื่องเขียนด้วย
นอกจากแม่ค้าพ่อค้าที่มารับของไปขายแล้ว ที่สำเพ็งนี้ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวช็อปปิ้งชั้นดี
ที่นี่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากันเยอะ
มาเข้าเรื่องกันครับ … ในบทนี้ผมเก็บประเด็นเล็กน้อยๆจากตลาดสำเพ็งมาฝาก 4 ประเด็น
1. จอดรถตรงไหนเนี่ย!?!
ตัวผมเป็นคนต่างจังหวัด ได้เข้าเมืองหลวงบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนักและที่สำคัญไม่เคยขับรถเข้ามา
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เริ่มขายของใหม่ๆ … กว่าจะมาสำเพ็งได้แบบไม่หลง ก็งงอยู่นาน
หลงไปหลายเที่ยว!!! ไปสำเพ็งถูกแล้วก็กังวลเรื่องที่จอดรถอีก จอดตรงไหนดี งงไปหมด!!
เค้าว่ากันว่าให้จอดที่ดิโอด์สยาม วัดตึก วัดมังกร วัดจักรวรรดิ ลานจอดรถของเมอร์รี่คิง ฯลฯ
ผมไปครั้งแรกๆ ถึงก็ดึกๆตีสามตีสี่ เห็นเค้าจอดกันเยอะแยะที่ข้างถนน ผมก็เลยเอาบ้าง ตามน้ำ
ข้างทางนี้จอดฟรีด้วย … ครั้นจะไปหาที่จอดที่เป็นกิจจะลักษณะที่เขาว่าก็ไปไม่ถูกไปไม่เป็น
จนวันหนึ่ง วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันมาถึงดึกๆ ช่วยภรรยาถือของพักหนึ่งก็กลับมานอนในรถ
ราวเจ็ดโมงกว่าๆ ผมนอนหลับอยู่ในรถ ผมตกใจตื่น มีใครบางคนมาเคาะกระจกรถผม
อ้าว!!! คุณตำรวจ!!! มาเคาะกระจกรถผม ซวยล่ะตำรวจเคาะกระจกแบบนี้ … !!!
ด้วยความไม่รู้ผมก็ลงไปคุยกับแก คุณตำรวจเขาบอกผมว่า ตรงนี้กลางคืนสามารถจอดได้
แต่ถ้าเช้าแล้วถ้าจอดจะโดนจับ!!! อร๊ะ!! กรรมแท้ๆ … หลับเพลินไปหน่อยซวยเลย!!!
คุณตำรวจเขาบอกผมว่าคราวนี้ไม่จับเตือนก่อน แต่ถ้าคราวหน้าโดนแน่ๆ ใจดีมากๆ
แล้วคุณตำรวจก็บอกให้ผมขับเลยไปอีกหน่อย ตรงสน.จักรวรรดิ ให้ไปจอดในวัดจักรวรรดิ
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยจอดข้างทางอีกเลยและจอดที่วัดจักรวรรดิตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ภาพลานจอดรถว่างๆของวัดจักรวรรดิ ตอนเที่ยง … รถเยอะมาก!!
วันที่ผมไปสำเพ็งล่าสุด ผมไปถึงช้าหน่อยเกือบตี 5 หาที่จอดรถไม่ได้วนอยู่ 45 นาที!!!
ที่จอดรถที่สำเพ็ง
2. ตลาดสำเพ็งมีตลาดเช้าและตลาดสาย
คำเตือน!!! ตลาดสำเพ็งนั้นเปิดบริการทุกวันก็จริง แต่ …
ตลาดเช้าจะหยุดทุกวันจันทร์ และ ร้านขายส่งบางร้านไม่เปิดวันอาทิตย์
ตลาดเช้าและตลาดสาย หรือ บางท่านจะเรียกว่า ตลาดเช้ามืด กับ ตลาดเช้าก็ว่ากันไป
เรามารู้ทำความรู้จักแบบลึกซึ้งกันครับ ตลาดเช้าโดยมากแม่ค้าพ่อค้าจะมาตั้งแผงขายกันริมทาง
พอเริ่มมีแสงสว่างร้านเหล่านั้นก็จะเก็บของ และ ร้านอาคารพาณิชย์ปกติก็จะเปิดทำการ
ตลาดเช้า
โดยมากเป็น “ขายส่ง” เป็นหลักจะยกโหลยกแพคก็ว่ากันไป
สามารถถามซื้อปลีกได้แต่แม่ค้าเค้าอาจจจะไม่ค่อยสนใจขายเราเท่าไหร่
ขาช็อปถ้าอยากมาช็อปของถูก แนะนำว่าให้มากันหลายๆคน ชวนก๊วนมาเลยยิ่งดี
พอเราเจอสินค้าร้านไหนถูกใจ ก็แชร์เลยก็ซื้อคนละชิ้นสองชิ้นก็ แค่นี้ก็ได้ราคาส่งแล้ว
โดยรวมแล้วสินค้าตลาดเช้ากับตลาดสายไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่จะต่างบ้างเช่น
ร้านตุ๊กตาราคาถูก ไม่มีแบรนด์ ไม่ติดลิขสิทธิ์ จะอยู่ตลาดเช้าเสียมาก เป็นต้น
เวลาปกติ … ก็เปิดตี 1 แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำว่าให้ไปราวๆ ตี 3 ตี 4
เพราะร้านบางร้านเปิดช้า กว่าจะเปิดครบพร้อมขายก็ราวตี 3
ร้านค้าแผงลอบเหล่านี้จะเก็บของ เลิกขาย ราว 7 โมงเช้า
เวลาไม่ปกติ … เช่นเทศปีใหม่ เปิดพร้อมเที่ยงคืน ของ ตี 5 ของหมด!!
ของหมดจริงๆ ผมเคยแล้ว!!! ไปถึง ตี 5 แม่ค้าบอกของหมดแล้ว!!!
ตลาดสาย
มีทั้งขายปลีกและส่งหลายๆร้านในสำเพ็งจะเขียนไว้สองราคา ทั้ง ราคาปลีก / ราคาส่ง
ในตลาดสำเพ็งจะมี ห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม หลายห้างอยู่ ซึ่งห้างเหล่านั้นจะเปิดสาย
สินค้าในห้างย่อยๆเหล่านั้นบางที่ก็น่าสนใจและบางร้านราคาถูกกว่าตลาดเช้า
สินค้าที่ตลาดสายเช่น ร้านของแก้วแพค ร้านผ้าแพคบางร้าน ร้านขายเครื่องเขียน ฯลฯ
ร้านเหล่านี้จะเปิดสายหน่อย ใครซื้อสินค้าจากร้านเหล่านี้ก็ต้องมาตอนสายๆ
ตลาดสายที่ตลาดสำเพ็ง วันเวลาปกติร้านรวงต่างๆก็จะทยอยกันเปิดตังแต่ 8 โมงเช้า
ยกตัวอย่างเวลาที่ผมไปซื้อของนะครับ ผมไปซื้อของมาขายทีหนึ่งก็ได้สินค้าเต็มคันรถกลับมา
ปกติแล้วผมจะไปถึงตลาดสำเพ็งราวตี 4 เลือกซื้อของจากตลาดเช้าเสร็จก็ประมาณ 7 โมง
แล้วก็พักทานข้าวนอนพักผ่อน ราวแปดโมงครึ่งก็เริ่มเดินตลาดสายต่อ เสร็จก็ประมาณเที่ยงวัน
ผมใช้เวลาซื้อของคาบเกี่ยวสองตลาดเพื่อให้ได้ของครบถ้วนกระบวนความ
ภาพตัวอย่างราคาส่ง 65 / ราคาปลีก 130 ราคาส่งก็สามชิ้นเหมือนกันหรือหกชิ้นคละแบบ
ราคาปลีกส่งที่สำเพ็ง
ภาพตลาดเช้าของตลาดสำเพ็งครับ ถ่ายตอนเช้ามืด
สำเพ็งยามเช้าตรู่
ภาพนี้ถ่ายมุมเดียวกันและวันเดียวกันกับภาพด้านบน แต่ถ่ายตอนสิบโมงเช้า
สำเพ็งยามสาย
3. ร้านค้าในตำนาน และ ร้านของก็อปในตำนาน
ที่ตลาดสำเพ็งนั้น หลายๆร้านก็ขายสินค้าเหมือนๆกัน ราคาสินค้าในแต่ละร้านนั้นก็ไม่ต่างกัน
มองเผินๆราคาอาจจะเท่ากันเลย แต่จากที่ผมซื้อของเดินวนๆเวียนๆอยู่ในสำเพ็งหลายปี
ผมรู้ความลับสุดยอดมาอย่างหนึ่งว่าในสำเพ็งมี “ร้านค้าในตำนาน” ชื่อเท่มั้ยผมตั้งเอง 55+
ร้านค้าในตำนาน คือ ร้านที่เป็นผู้ค้าส่งสินค้าให้ผู้ค้าในตลาดสำเพ็งอีกที … งงมั้ย 555+
เอาใหม่ คือ ร้านที่เป็นต้นตอที่ผู้นำเข้าสินค้านั้นๆมาจำหน่าย ให้พ่อค้าแม่ค้าขายส่งในสำเพ็ง
ร้านในตำนานพอนำเข้าสินค้ามาปุ๊ปก็กระจายสินค้าราคาส่งไปให้ร้านอื่นๆไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง
การที่จะหาเจอร้านเหล่านี้ไม่ง่ายเพราะ ถ้าไปถามพ่อค้าแม่ค้าเขาตรงๆ อาจจะโดนด่าชุดใหญ่
แต่ผมมีเคล็ดในการหาร้านในตำนานเหล่านี้ อาจจะโมเมมั่วนิ่มบ้างก็ลองพิจารณาดูครับ
ประเด็นแรก ดูง่ายๆ จากที่ผมเห็นร้านในต่ำนานเหล่านี้จะขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ เล็กน้อย
ประเด็นที่สอง ร้านในตำนานจะขายของน้อยชนิดหรือเรียกได้ว่าชิ้นของอย่างเดียวเลยก็ว่าได้
ร้านเหล่านี้ถ้าสังเกตดูดีๆของชนิดเดียวก็จริง แต่สินค้าที่สต็อกกองอยู่หลังร้านเป็นภูเขาเลากา
เมื่อหาร้านเหล่านี้พบแล้วสิ่งที่เราจะได้คือ ราคาหน้าขายหน้าร้านที่ถูกลง ซื้อมีจำนวนต่อรองได้
ซึ่งโดยมาพ่อค้าตลาดเช้าที่สำเพ็งที่เขาค้าส่ง มักจะขายราคาไหนราคานั้น ต่อไม่ได้ ราคาไม่ลด
แต่ถ้าเราเจอต้นตอร้านค้าในตำนานนี้ เราสามารถนำสินค้าไปขายต่ออีก ลองนึกดู …
ถ้าเราได้สินค้ามาในราคาส่งที่พ่อค้าแม่ค้าในสำเพ็งได้ เราไปขายส่งตามต่างจังหวัดได้สบาย
ร้านเหล่านี้มีอยู่จริงครับ ใครที่คิดการณ์ใหญ่ใจต้องอดทน ไปเดินบ่อยๆเดี๋ยวก็เจอ ค่อยๆเดินหา
จากร้านค้าในตำนานมาถึง “ร้านของก็อปในตำนาน” กันบ้าง …
สินค้าหลายตัวที่ขายในสำเพ็งต้องยอมรับว่า “ลิขสิทธิ์แรง” เช่น สินค้าของ Disney
สินค้าตัวการ์ตูนค่ายต่างๆ ฯลฯ แน่นอนว่า พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของเหล่านี้จะบอกเราว่าไม่โดน
แต่ผมเคยเห็นจะๆเลยครับ … โดนล้อมจับที่สำเพ็ง ไหนบอกว่าเราไม่โดน ตัวเองโดนจับซะงั้น
ร้านอื่นที่ขายสินค้าแบบนี้ปิดกันเงียบ เผ่นกันแทบไม่ทัน ขนาดที่สำเพ็งยังโดน เราจะเหลือรึ!!
ถ้าเราซื้อของเหล่านี้ไปขายที่อื่นจะไม่โดนจับได้อย่างไร
สินค้าในตลาดสำเพ็งมีหลายเกรด มีทั้งของดีของแท้ลิขสิทธิ์ ของปลอมงานหยาบงานสมราคา
ร้านค้าส่งหลายๆร้านในสำเพ็งก็ดีมากครับ เขาจะบอกผู้ซื้อตรงๆว่าอันนี้แท้อันนี้ปลอม
แต่บางร้านไม่บอก อยากรู้ต้องดูเอง ร้านถ้าสุดขั้วพวกนี้ดูง่ายแท้คือแท้ ไม่แท้คือไม่แท้ชัดเจน
แต่ที่เป็นปัญหาคือ ของดีเกรดเอที่คนขายว่าแท้เราดูงานแทบไม่รู้เลยว่าของเก๊แต่มันก็เก๊
ผมเรียกร้านเหล่านี้ว่า “ร้านของก็อปในตำนาน” เพราะลูกพี่ก็อปเหมือนจริงๆ อันตรายมากร้านค้าเหล่านี้
เพราะถ้าเรานำไปขาย เราอาจจะโดนเจ้าของลิขสิทธิ์จับหรืออาจจะโดนพวกมิจฉาชีพรีดไถได้
การป้องกันที่ดีที่สุดคือเข้าร้านที่ขายของแท้ล้วนๆ ที่ป้ายบอกหน้าร้านตัวโตว่าของลิขสิทธิ์
เช่น OK STATION, BE GIFT, HAPPY GIFT ฯลฯ ซึ่งเป็นร้านค้าในเครือเดียวกัน
แล้วก็มีอีกหลายร้านที่จำหน่ายของถูกลิขสิทธิ์แท้ ลองเดินดูครับ
ภาพนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาครับ … ภาพร้านโปรดของผมครับ ร้านขายของเล่น
ผมแวะทุกครั้งที่ไปสำเพ็งซื้อนิดซื้อหน่อยสนองความต้องการวัยเด็กโดยมากซื้อไปแจก 555+
ร้านโปรดของผม
4. อย่าลืมถามแม่ค้าว่าเข็นไปส่งหรือเปล่า
โดยปกติแล้วถ้าซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ร้านค้าเขาจะเข็นไปส่งให้ที่รถ … แต่ก็ไม่เสมอไปครับ
มีครั้งหนึ่งผมไปซื้อของมาขายกับภรรยาเช่นเคย วันนั้นเราไปเจอร้านจำหน่ายตุ๊กตาร้านหนึ่ง
ร้านตุ๊กตาร้านนี้ขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อย ภรรยาผมดีใจมากเหมือนเจอได้ร้านในตำนาน
เธอซื้อเต็มที่ ได้ของถุงใหญ่ๆเบ้อเริ่มเทิ่มสามถุง … แล้วเราก็แจ้งบอกไปว่าเข็นไปส่งที่รถด้วย
ทางร้านแจ้งว่าไม่มีบริการเข็นไปส่ง … อร๊ะ!!! ผมแทบช็อก!!! รถเข็นก็ไม่ได้เอามาลืมไว้ที่รถ
ต้องเดินแบกไปก่อนถุงหนึ่ง แล้วก็กลับไปเอารถเข็นคันเก่งของผมมาขนต่ออีกสองเที่ยว!!!
ตัวร้านอยู่กลางตลาดเลย แต่รถจอดอยู่ขอบๆนู่น ผมขนสามเที่ยว แบบทุลักทุเลมากกก
ลองนึกสภาพแบกของถุงใหญ่ๆ เดินฝ่าฝูงชนล้นหลามในตลาดสำเพ็ง … สุดๆ
ผมเดาว่าร้านนี้เขาทำราคาได้ถูกกว่าเจ้าอื่นเพราะเขาจ้างคนน้อยตัดคนส่งของออกต้นทุนเลยถูก
แต่ … ราคาที่ถูกแต่ต้องแลกมาด้วยการถือของกลับไปเอง!!! ร้านนี้ผมซื้อครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วก็ไม่เคยซื้ออีกเลย!!!
ดังนั้นถ้าจะซื้อของจำนวนร้านไหนจำนวนมากๆ อย่าลืมถามทางร้านก่อนว่ามีบริการส่งหรือไม่
หรืออย่างน้อยก็ซื้อรถเข็นติดตัวไว้สักคัน … ไม่งั้นวันนั้นอาจจะถือของจนแขนเสียก็ได้ 555+
นี่เป็นข้อคิดเห็นเล็กๆน้อยๆ 4 ประการของผมจากตลาดสำเพ็งครับ
บทนี้น่าจะมีประโยชน์และเป็นแนวทางได้บ้าง … ช็อปปิ้งให้สนุกครับ
ขอให้บทความชิ้นนี้จงได้สร้างประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอให้ความร่ำรวยและความสุขสวัสดิ์จงมาสถิตแด่ท่าน
…[^_^]…
ปล .
ตอนที่แล้ว … ข้อคิดเห็น 3 ประการ สำหรับผู้ที่จะไป “ตลาดโรงเกลือ” http://goo.gl/8LiuS
แถมส่งท้ายด้วยภาพนี้แล้วกันครับ เป็นร้านที่ผมชื่นชมมากเป็นพิเศษ …
สมาคมแม่บ้านนานาชาติที่สำเพ็ง
ผมกับภรรยาเรียกที่นี่ว่า ร้านสมาคมแม่บ้านนานาชาติ โดยปกติผมจะไปซื้อริ้บบิ้นผ้าที่ร้านนี้
ร้านนี้จำหน่ายอุปกรณ์แม่บ้านครับ จำพวก กระดุม ซิป เข็ม ด้าย โบ ริบบิ้นผ้า ฯลฯ
บ่อยครั้งที่ผมมาร้านนี้ ผมจะเห็นคุณป้าเจ้าของร้านกำลังเม้าท์มอยอยู่กับลูกค้าชาวต่างชาติอย่างออกรส
คุณป้าเจ้าของร้านพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ลูกค้าคุณป้าแกจึงนานาชาติมาก
แม่บ้านหลากสัญชาติมารวมที่ร้านนี้ อาม่าอาหมวยหรือฝรั่งผมแดงผมบรอนด์ แขกดำแขกขาว ฯลฯ
เพิ่มเติม
ตลาดใหญ่ๆจะมีขโมยขโจร มีกรีดกระเป๋าวิ่งราวให้พบเห็นเสมอๆ มีคนกล่าวไว้ว่า …
กระเป๋าเงินอยู่ด้านหลัง …. โอกาสที่เงินในกระเป๋าจะตกเป็นของโจรมีสูง
กระเป๋าเงินอยู่ด้านข้าน …. ของเราครึ่งหนึ่ง ของเขาครึ่งหนึ่ง
กระเป๋าเงินอยู่ด้านหน้า …. อุ่นในว่าใจว่าเงินจะเป็นของเรา
ถ้าผมไปซื้อของที่ตลาดใหญ่ๆ เมื่อใด ผมจะใช้กระเป๋าสะพายในการเก็บเงินครับ
แต่สะพายพาดมาด้านหน้าตลอด … นอกจากนั้น ผมใช้เทคนิคการแบ่งเงินครับ
ถ้าไปสามคนก็แบ่งเงินเป็นสามกองเท่าๆกัน ไปสองคนก็แบ่งสองกองครับ กระจายความเสี่ยง
อีกเรื่องถ้าจะซื้อของเยอะๆ ขอแนะนำเพิ่มเติมนิดนึง
ถ้าเอารถกระบะไปต้องมีคนเฝ้าของนะครับ เพราะถ้าไม่เฝ้ามีหายแน่ๆ หรือถ้ามาเก๋งหรือมา SUV ก็เยี่ยมเลย ปลอดภัยสุดๆ
ส่วนผม ถ้าคิดว่าซื้อน้อยจะเอา SUV ไป แต่ถ้าครั้งไหนจัดเต็มก็ต้องคันนี้เลยครับ
กระบะตอนเดียวตีตู้ มีกุญแจล็อกด้วยซื้อของสบายใจ
รถตีตู้ มาม่ากับปลากระป๋อง
ตลาดที่ว่าตั้งอยู่ใน … กรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ นั่นคือ “ตลาดสำเพ็ง”
ผมมาตลาดสำเพ็งทุกเดือนเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย ถ้าช่วงหน้าเทศกาลก็มาบ่อยหน่อย
จะไม่มาได้ไง ผมเปิดร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปถ้าไม่มาที่นี่แล้วจะไปที่ไหน 555+
ตลาดสำเพ็งขึ้นชื่อเลยว่าเป็นแหล่งค้าส่งสินค้ากิ๊ฟช็อปมากมาย มีสินค้าหลากหลาย
ตุ๊กตาลิขสิทธิ์แท้ ตุ๊กตาเทียมราคาถูก ของเล่นเด็ก เครื่องประดับความงาม นาฬิกาถูกๆ
กิ๊บติดผม กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด อุปกรณ์จิปาถะใช้ในบ้าน ถ้วยโถโอชาม ช้อน กาละมัง
สินค้าตามเทศการเช่น วันวาเลนไทน์ ตรุษจีน วันแม่ ฯลฯ และ มีร้านค้าส่งเครื่องเขียนด้วย
นอกจากแม่ค้าพ่อค้าที่มารับของไปขายแล้ว ที่สำเพ็งนี้ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวช็อปปิ้งชั้นดี
ที่นี่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากันเยอะ
มาเข้าเรื่องกันครับ … ในบทนี้ผมเก็บประเด็นเล็กน้อยๆจากตลาดสำเพ็งมาฝาก 4 ประเด็น
1. จอดรถตรงไหนเนี่ย!?!
ตัวผมเป็นคนต่างจังหวัด ได้เข้าเมืองหลวงบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนักและที่สำคัญไม่เคยขับรถเข้ามา
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เริ่มขายของใหม่ๆ … กว่าจะมาสำเพ็งได้แบบไม่หลง ก็งงอยู่นาน
หลงไปหลายเที่ยว!!! ไปสำเพ็งถูกแล้วก็กังวลเรื่องที่จอดรถอีก จอดตรงไหนดี งงไปหมด!!
เค้าว่ากันว่าให้จอดที่ดิโอด์สยาม วัดตึก วัดมังกร วัดจักรวรรดิ ลานจอดรถของเมอร์รี่คิง ฯลฯ
ผมไปครั้งแรกๆ ถึงก็ดึกๆตีสามตีสี่ เห็นเค้าจอดกันเยอะแยะที่ข้างถนน ผมก็เลยเอาบ้าง ตามน้ำ
ข้างทางนี้จอดฟรีด้วย … ครั้นจะไปหาที่จอดที่เป็นกิจจะลักษณะที่เขาว่าก็ไปไม่ถูกไปไม่เป็น
จนวันหนึ่ง วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันมาถึงดึกๆ ช่วยภรรยาถือของพักหนึ่งก็กลับมานอนในรถ
ราวเจ็ดโมงกว่าๆ ผมนอนหลับอยู่ในรถ ผมตกใจตื่น มีใครบางคนมาเคาะกระจกรถผม
อ้าว!!! คุณตำรวจ!!! มาเคาะกระจกรถผม ซวยล่ะตำรวจเคาะกระจกแบบนี้ … !!!
ด้วยความไม่รู้ผมก็ลงไปคุยกับแก คุณตำรวจเขาบอกผมว่า ตรงนี้กลางคืนสามารถจอดได้
แต่ถ้าเช้าแล้วถ้าจอดจะโดนจับ!!! อร๊ะ!! กรรมแท้ๆ … หลับเพลินไปหน่อยซวยเลย!!!
คุณตำรวจเขาบอกผมว่าคราวนี้ไม่จับเตือนก่อน แต่ถ้าคราวหน้าโดนแน่ๆ ใจดีมากๆ
แล้วคุณตำรวจก็บอกให้ผมขับเลยไปอีกหน่อย ตรงสน.จักรวรรดิ ให้ไปจอดในวัดจักรวรรดิ
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยจอดข้างทางอีกเลยและจอดที่วัดจักรวรรดิตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ภาพลานจอดรถว่างๆของวัดจักรวรรดิ ตอนเที่ยง … รถเยอะมาก!!
วันที่ผมไปสำเพ็งล่าสุด ผมไปถึงช้าหน่อยเกือบตี 5 หาที่จอดรถไม่ได้วนอยู่ 45 นาที!!!
ที่จอดรถที่สำเพ็ง
2. ตลาดสำเพ็งมีตลาดเช้าและตลาดสาย
คำเตือน!!! ตลาดสำเพ็งนั้นเปิดบริการทุกวันก็จริง แต่ …
ตลาดเช้าจะหยุดทุกวันจันทร์ และ ร้านขายส่งบางร้านไม่เปิดวันอาทิตย์
ตลาดเช้าและตลาดสาย หรือ บางท่านจะเรียกว่า ตลาดเช้ามืด กับ ตลาดเช้าก็ว่ากันไป
เรามารู้ทำความรู้จักแบบลึกซึ้งกันครับ ตลาดเช้าโดยมากแม่ค้าพ่อค้าจะมาตั้งแผงขายกันริมทาง
พอเริ่มมีแสงสว่างร้านเหล่านั้นก็จะเก็บของ และ ร้านอาคารพาณิชย์ปกติก็จะเปิดทำการ
ตลาดเช้า
โดยมากเป็น “ขายส่ง” เป็นหลักจะยกโหลยกแพคก็ว่ากันไป
สามารถถามซื้อปลีกได้แต่แม่ค้าเค้าอาจจจะไม่ค่อยสนใจขายเราเท่าไหร่
ขาช็อปถ้าอยากมาช็อปของถูก แนะนำว่าให้มากันหลายๆคน ชวนก๊วนมาเลยยิ่งดี
พอเราเจอสินค้าร้านไหนถูกใจ ก็แชร์เลยก็ซื้อคนละชิ้นสองชิ้นก็ แค่นี้ก็ได้ราคาส่งแล้ว
โดยรวมแล้วสินค้าตลาดเช้ากับตลาดสายไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่จะต่างบ้างเช่น
ร้านตุ๊กตาราคาถูก ไม่มีแบรนด์ ไม่ติดลิขสิทธิ์ จะอยู่ตลาดเช้าเสียมาก เป็นต้น
เวลาปกติ … ก็เปิดตี 1 แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำว่าให้ไปราวๆ ตี 3 ตี 4
เพราะร้านบางร้านเปิดช้า กว่าจะเปิดครบพร้อมขายก็ราวตี 3
ร้านค้าแผงลอบเหล่านี้จะเก็บของ เลิกขาย ราว 7 โมงเช้า
เวลาไม่ปกติ … เช่นเทศปีใหม่ เปิดพร้อมเที่ยงคืน ของ ตี 5 ของหมด!!
ของหมดจริงๆ ผมเคยแล้ว!!! ไปถึง ตี 5 แม่ค้าบอกของหมดแล้ว!!!
ตลาดสาย
มีทั้งขายปลีกและส่งหลายๆร้านในสำเพ็งจะเขียนไว้สองราคา ทั้ง ราคาปลีก / ราคาส่ง
ในตลาดสำเพ็งจะมี ห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม หลายห้างอยู่ ซึ่งห้างเหล่านั้นจะเปิดสาย
สินค้าในห้างย่อยๆเหล่านั้นบางที่ก็น่าสนใจและบางร้านราคาถูกกว่าตลาดเช้า
สินค้าที่ตลาดสายเช่น ร้านของแก้วแพค ร้านผ้าแพคบางร้าน ร้านขายเครื่องเขียน ฯลฯ
ร้านเหล่านี้จะเปิดสายหน่อย ใครซื้อสินค้าจากร้านเหล่านี้ก็ต้องมาตอนสายๆ
ตลาดสายที่ตลาดสำเพ็ง วันเวลาปกติร้านรวงต่างๆก็จะทยอยกันเปิดตังแต่ 8 โมงเช้า
ยกตัวอย่างเวลาที่ผมไปซื้อของนะครับ ผมไปซื้อของมาขายทีหนึ่งก็ได้สินค้าเต็มคันรถกลับมา
ปกติแล้วผมจะไปถึงตลาดสำเพ็งราวตี 4 เลือกซื้อของจากตลาดเช้าเสร็จก็ประมาณ 7 โมง
แล้วก็พักทานข้าวนอนพักผ่อน ราวแปดโมงครึ่งก็เริ่มเดินตลาดสายต่อ เสร็จก็ประมาณเที่ยงวัน
ผมใช้เวลาซื้อของคาบเกี่ยวสองตลาดเพื่อให้ได้ของครบถ้วนกระบวนความ
ภาพตัวอย่างราคาส่ง 65 / ราคาปลีก 130 ราคาส่งก็สามชิ้นเหมือนกันหรือหกชิ้นคละแบบ
ราคาปลีกส่งที่สำเพ็ง
ภาพตลาดเช้าของตลาดสำเพ็งครับ ถ่ายตอนเช้ามืด
สำเพ็งยามเช้าตรู่
ภาพนี้ถ่ายมุมเดียวกันและวันเดียวกันกับภาพด้านบน แต่ถ่ายตอนสิบโมงเช้า
สำเพ็งยามสาย
3. ร้านค้าในตำนาน และ ร้านของก็อปในตำนาน
ที่ตลาดสำเพ็งนั้น หลายๆร้านก็ขายสินค้าเหมือนๆกัน ราคาสินค้าในแต่ละร้านนั้นก็ไม่ต่างกัน
มองเผินๆราคาอาจจะเท่ากันเลย แต่จากที่ผมซื้อของเดินวนๆเวียนๆอยู่ในสำเพ็งหลายปี
ผมรู้ความลับสุดยอดมาอย่างหนึ่งว่าในสำเพ็งมี “ร้านค้าในตำนาน” ชื่อเท่มั้ยผมตั้งเอง 55+
ร้านค้าในตำนาน คือ ร้านที่เป็นผู้ค้าส่งสินค้าให้ผู้ค้าในตลาดสำเพ็งอีกที … งงมั้ย 555+
เอาใหม่ คือ ร้านที่เป็นต้นตอที่ผู้นำเข้าสินค้านั้นๆมาจำหน่าย ให้พ่อค้าแม่ค้าขายส่งในสำเพ็ง
ร้านในตำนานพอนำเข้าสินค้ามาปุ๊ปก็กระจายสินค้าราคาส่งไปให้ร้านอื่นๆไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง
การที่จะหาเจอร้านเหล่านี้ไม่ง่ายเพราะ ถ้าไปถามพ่อค้าแม่ค้าเขาตรงๆ อาจจะโดนด่าชุดใหญ่
แต่ผมมีเคล็ดในการหาร้านในตำนานเหล่านี้ อาจจะโมเมมั่วนิ่มบ้างก็ลองพิจารณาดูครับ
ประเด็นแรก ดูง่ายๆ จากที่ผมเห็นร้านในต่ำนานเหล่านี้จะขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ เล็กน้อย
ประเด็นที่สอง ร้านในตำนานจะขายของน้อยชนิดหรือเรียกได้ว่าชิ้นของอย่างเดียวเลยก็ว่าได้
ร้านเหล่านี้ถ้าสังเกตดูดีๆของชนิดเดียวก็จริง แต่สินค้าที่สต็อกกองอยู่หลังร้านเป็นภูเขาเลากา
เมื่อหาร้านเหล่านี้พบแล้วสิ่งที่เราจะได้คือ ราคาหน้าขายหน้าร้านที่ถูกลง ซื้อมีจำนวนต่อรองได้
ซึ่งโดยมาพ่อค้าตลาดเช้าที่สำเพ็งที่เขาค้าส่ง มักจะขายราคาไหนราคานั้น ต่อไม่ได้ ราคาไม่ลด
แต่ถ้าเราเจอต้นตอร้านค้าในตำนานนี้ เราสามารถนำสินค้าไปขายต่ออีก ลองนึกดู …
ถ้าเราได้สินค้ามาในราคาส่งที่พ่อค้าแม่ค้าในสำเพ็งได้ เราไปขายส่งตามต่างจังหวัดได้สบาย
ร้านเหล่านี้มีอยู่จริงครับ ใครที่คิดการณ์ใหญ่ใจต้องอดทน ไปเดินบ่อยๆเดี๋ยวก็เจอ ค่อยๆเดินหา
จากร้านค้าในตำนานมาถึง “ร้านของก็อปในตำนาน” กันบ้าง …
สินค้าหลายตัวที่ขายในสำเพ็งต้องยอมรับว่า “ลิขสิทธิ์แรง” เช่น สินค้าของ Disney
สินค้าตัวการ์ตูนค่ายต่างๆ ฯลฯ แน่นอนว่า พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของเหล่านี้จะบอกเราว่าไม่โดน
แต่ผมเคยเห็นจะๆเลยครับ … โดนล้อมจับที่สำเพ็ง ไหนบอกว่าเราไม่โดน ตัวเองโดนจับซะงั้น
ร้านอื่นที่ขายสินค้าแบบนี้ปิดกันเงียบ เผ่นกันแทบไม่ทัน ขนาดที่สำเพ็งยังโดน เราจะเหลือรึ!!
ถ้าเราซื้อของเหล่านี้ไปขายที่อื่นจะไม่โดนจับได้อย่างไร
สินค้าในตลาดสำเพ็งมีหลายเกรด มีทั้งของดีของแท้ลิขสิทธิ์ ของปลอมงานหยาบงานสมราคา
ร้านค้าส่งหลายๆร้านในสำเพ็งก็ดีมากครับ เขาจะบอกผู้ซื้อตรงๆว่าอันนี้แท้อันนี้ปลอม
แต่บางร้านไม่บอก อยากรู้ต้องดูเอง ร้านถ้าสุดขั้วพวกนี้ดูง่ายแท้คือแท้ ไม่แท้คือไม่แท้ชัดเจน
แต่ที่เป็นปัญหาคือ ของดีเกรดเอที่คนขายว่าแท้เราดูงานแทบไม่รู้เลยว่าของเก๊แต่มันก็เก๊
ผมเรียกร้านเหล่านี้ว่า “ร้านของก็อปในตำนาน” เพราะลูกพี่ก็อปเหมือนจริงๆ อันตรายมากร้านค้าเหล่านี้
เพราะถ้าเรานำไปขาย เราอาจจะโดนเจ้าของลิขสิทธิ์จับหรืออาจจะโดนพวกมิจฉาชีพรีดไถได้
การป้องกันที่ดีที่สุดคือเข้าร้านที่ขายของแท้ล้วนๆ ที่ป้ายบอกหน้าร้านตัวโตว่าของลิขสิทธิ์
เช่น OK STATION, BE GIFT, HAPPY GIFT ฯลฯ ซึ่งเป็นร้านค้าในเครือเดียวกัน
แล้วก็มีอีกหลายร้านที่จำหน่ายของถูกลิขสิทธิ์แท้ ลองเดินดูครับ
ภาพนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาครับ … ภาพร้านโปรดของผมครับ ร้านขายของเล่น
ผมแวะทุกครั้งที่ไปสำเพ็งซื้อนิดซื้อหน่อยสนองความต้องการวัยเด็กโดยมากซื้อไปแจก 555+
ร้านโปรดของผม
4. อย่าลืมถามแม่ค้าว่าเข็นไปส่งหรือเปล่า
โดยปกติแล้วถ้าซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ร้านค้าเขาจะเข็นไปส่งให้ที่รถ … แต่ก็ไม่เสมอไปครับ
มีครั้งหนึ่งผมไปซื้อของมาขายกับภรรยาเช่นเคย วันนั้นเราไปเจอร้านจำหน่ายตุ๊กตาร้านหนึ่ง
ร้านตุ๊กตาร้านนี้ขายราคาถูกกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อย ภรรยาผมดีใจมากเหมือนเจอได้ร้านในตำนาน
เธอซื้อเต็มที่ ได้ของถุงใหญ่ๆเบ้อเริ่มเทิ่มสามถุง … แล้วเราก็แจ้งบอกไปว่าเข็นไปส่งที่รถด้วย
ทางร้านแจ้งว่าไม่มีบริการเข็นไปส่ง … อร๊ะ!!! ผมแทบช็อก!!! รถเข็นก็ไม่ได้เอามาลืมไว้ที่รถ
ต้องเดินแบกไปก่อนถุงหนึ่ง แล้วก็กลับไปเอารถเข็นคันเก่งของผมมาขนต่ออีกสองเที่ยว!!!
ตัวร้านอยู่กลางตลาดเลย แต่รถจอดอยู่ขอบๆนู่น ผมขนสามเที่ยว แบบทุลักทุเลมากกก
ลองนึกสภาพแบกของถุงใหญ่ๆ เดินฝ่าฝูงชนล้นหลามในตลาดสำเพ็ง … สุดๆ
ผมเดาว่าร้านนี้เขาทำราคาได้ถูกกว่าเจ้าอื่นเพราะเขาจ้างคนน้อยตัดคนส่งของออกต้นทุนเลยถูก
แต่ … ราคาที่ถูกแต่ต้องแลกมาด้วยการถือของกลับไปเอง!!! ร้านนี้ผมซื้อครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วก็ไม่เคยซื้ออีกเลย!!!
ดังนั้นถ้าจะซื้อของจำนวนร้านไหนจำนวนมากๆ อย่าลืมถามทางร้านก่อนว่ามีบริการส่งหรือไม่
หรืออย่างน้อยก็ซื้อรถเข็นติดตัวไว้สักคัน … ไม่งั้นวันนั้นอาจจะถือของจนแขนเสียก็ได้ 555+
นี่เป็นข้อคิดเห็นเล็กๆน้อยๆ 4 ประการของผมจากตลาดสำเพ็งครับ
บทนี้น่าจะมีประโยชน์และเป็นแนวทางได้บ้าง … ช็อปปิ้งให้สนุกครับ
ขอให้บทความชิ้นนี้จงได้สร้างประโยชน์ให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอให้ความร่ำรวยและความสุขสวัสดิ์จงมาสถิตแด่ท่าน
…[^_^]…
ปล .
ตอนที่แล้ว … ข้อคิดเห็น 3 ประการ สำหรับผู้ที่จะไป “ตลาดโรงเกลือ” http://goo.gl/8LiuS
แถมส่งท้ายด้วยภาพนี้แล้วกันครับ เป็นร้านที่ผมชื่นชมมากเป็นพิเศษ …
สมาคมแม่บ้านนานาชาติที่สำเพ็ง
ผมกับภรรยาเรียกที่นี่ว่า ร้านสมาคมแม่บ้านนานาชาติ โดยปกติผมจะไปซื้อริ้บบิ้นผ้าที่ร้านนี้
ร้านนี้จำหน่ายอุปกรณ์แม่บ้านครับ จำพวก กระดุม ซิป เข็ม ด้าย โบ ริบบิ้นผ้า ฯลฯ
บ่อยครั้งที่ผมมาร้านนี้ ผมจะเห็นคุณป้าเจ้าของร้านกำลังเม้าท์มอยอยู่กับลูกค้าชาวต่างชาติอย่างออกรส
คุณป้าเจ้าของร้านพูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ลูกค้าคุณป้าแกจึงนานาชาติมาก
แม่บ้านหลากสัญชาติมารวมที่ร้านนี้ อาม่าอาหมวยหรือฝรั่งผมแดงผมบรอนด์ แขกดำแขกขาว ฯลฯ
เพิ่มเติม
ตลาดใหญ่ๆจะมีขโมยขโจร มีกรีดกระเป๋าวิ่งราวให้พบเห็นเสมอๆ มีคนกล่าวไว้ว่า …
กระเป๋าเงินอยู่ด้านหลัง …. โอกาสที่เงินในกระเป๋าจะตกเป็นของโจรมีสูง
กระเป๋าเงินอยู่ด้านข้าน …. ของเราครึ่งหนึ่ง ของเขาครึ่งหนึ่ง
กระเป๋าเงินอยู่ด้านหน้า …. อุ่นในว่าใจว่าเงินจะเป็นของเรา
ถ้าผมไปซื้อของที่ตลาดใหญ่ๆ เมื่อใด ผมจะใช้กระเป๋าสะพายในการเก็บเงินครับ
แต่สะพายพาดมาด้านหน้าตลอด … นอกจากนั้น ผมใช้เทคนิคการแบ่งเงินครับ
ถ้าไปสามคนก็แบ่งเงินเป็นสามกองเท่าๆกัน ไปสองคนก็แบ่งสองกองครับ กระจายความเสี่ยง
อีกเรื่องถ้าจะซื้อของเยอะๆ ขอแนะนำเพิ่มเติมนิดนึง
ถ้าเอารถกระบะไปต้องมีคนเฝ้าของนะครับ เพราะถ้าไม่เฝ้ามีหายแน่ๆ หรือถ้ามาเก๋งหรือมา SUV ก็เยี่ยมเลย ปลอดภัยสุดๆ
ส่วนผม ถ้าคิดว่าซื้อน้อยจะเอา SUV ไป แต่ถ้าครั้งไหนจัดเต็มก็ต้องคันนี้เลยครับ
กระบะตอนเดียวตีตู้ มีกุญแจล็อกด้วยซื้อของสบายใจ
รถตีตู้ มาม่ากับปลากระป๋อง
ตลาดสำเพ็ง
ตลาดสำเพ็ง ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อปพี่น้องคนไทยทุกเชื้อชาติมานานแล้ว ซึ่งปัจจุบันสินค้าทันสมัยต่างๆจากโรงงานทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะมาจากใน ประเทศและนอกประเทศก็จะต้องมาร่วมกันอยู่ที่ตลาดสำเพ็งแห่ง และยังเป็นที่ซึ่งกระจายสินค้าไปตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศอีกด้วย
เสน่ห์ ของสินค้าและร้านค้าที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ เป็นตลาดที่เหมาะกับนักช็อปทุกรายจริงๆ ไม่ว่าท่านนักช็อปจะซื้อสินค้าเพียงชิ้นเดียวหรือซื้อเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้น ท่านก็จะ
ต้องมารวมกันที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ สินค้าที่ตลาดสำเพ็งถือได้ ว่าเป็นสินค้าที่นำสมัยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีน , คริสต์มาส ,วาเลนไทน์ , ปีใหม่ , สงกรานต์ ที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้จะมีสินค้าตามเทศกาลวางขายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เรียกได้ว่าท่านสามารถการซื้อได้จุใจ ทุกไซด์ ทุกขนาด ทุกราคาเลยละค่ะ
หลักง่าย สำหรับท่านนักช็อปที่ไม่ต้องการหาสินค้า แต่หากต้องการเข้าถึงสินค้าที่ต้องการซื้อเลย สองเท้าพาเดินขอแนะนำให้ไปที่จุดศูนย์รวมของสินค้าที่ตลาดสำเพ็ง คือที่ห้าง คิคูญ่า ที่นี่จะมีร้านค้าอยู่ภายในหลายร้านมาก แบ่งเป็นชั้นๆ จะรวมขายสินค้าหลากหลายชนิด หากท่าน
ยังไม่พอใจสินค้าภายในห้างท่านนัก ช็อปก็สามารถ เดินหาสินค้าบริเวณรอบห้างที่มีไม่ต่ำกว่า 100 ร้านค้า เรียกได้ว่าท่านช็อปที่นี่ท่านนักช็อปจะประหยัดพลังงานได้อีกเยอะ
แต่สำหรับท่าน นักช็อปที่มีเวลาและพลังงานเหลือหน่อย ทางทีมงานขอแนะนำให้ท่านนักช็อปแวะเข้าไปดูสินค้า ในซอย วานิช 1 ท่าน นักช็อปจะได้พบกับสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นทั้งเรื่องรูปแบบและราคา ยิ่งท่านเดินมากท่านก็จะพบกับสินค้าที่แปลกตามากมายขึ้นทางทีม
ยังรู้สึก ตื่นเต้นไปกับรูปแบบของสินค้าที่แปลกๆใหมๆ่ทั้งหลายเหมือนกันค่ะ
สิ่งที่ท่านนักช็อปไม่ครวพลาดคือการต่อรองราคาที่เหมาะสม เพราะความหลากหลายของสินค้า ทำให้ท่านพ่อค้าแม่ค้ากำหนดราคาสินค้าไม่เท่ากัน แต่หากท่านพอใจกับสินค้าที่ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องต่อรอง ทีมงานขอยืนยันว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้เป็นราคาที่เหมาะสม
อยู่แล้ว เพียงแต่แนะนำสำหรับท่านนักช็อปที่ซื้อจำนวนมากๆเท่านั้นที่จะพอเห็นส่วน ต่างของราคาบ้าง
ที่ อยู่ : ตั้งอยู่บนถนนหลาย สาย กินพื้นที่ค่อนข้างมากมีถนนเข้าสู่ตลาดสำเพ็งหลายสาย เช่น ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร
ถ. จักรเพชร ตั้งอยู่ในซอยหลักตลอดสายคือ ซอยวานิช 1 และยังมีซอยย่อยอีกหลายซอยกว่า เกือบ 10 ซอย บางซอยรถก็สามารถผ่านได้บาง
ซอยก็ยกเว้นให้คนเดินอย่าง เดียว พื้นที่ของตลาดอยู่ในความรับผิดชอบของเขต สัมพันธวงศ์และ เขตพระนครคาบเกี่ยวกันพื้นที่ของตลาดเป็น
ลักษณะสี่เหลี่ยมเข้าออกได้ หลายทาง
เวลาเปิด-ปิด : ตลาดสำ เพ็ง จะเป็นตลาดเปิด คือ เปิดขายสินค้าทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้า 9.00 น.ถึงช่วงเย็นแก่ๆ หากแต่ในช่วงวันหยุด
ราชการ จะมีผู้คนที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าค่อนข้างจะมากกว่าวันปกติ ร้านค้าในตลาดสำเพ็งจะเปิดไม่พร้อมกันขึ้นอยู่เจ้าของร้านแต่ละร้าน
ลักษณะ ของร้านค้าที่ตลาดสำเพ็งจะเป็นลักษณธของร้านทั้งร้านตึกแถวและร้านที่เป็น แผงลอย และเป็นร้านที่อยู่ในห้าง คิคูญ่า รูปแบบของร้าน
ที่ตลาดสำเพ็งจะ มีหลากหลายไซด์มาก
ข้อ แนะนำ : ท่านนัก ช็อปที่มีความจำเป็นที่จะต้องมาใช้บริการที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ สองเท้าพาเดินขอแนะนำว่าไม่ควรนำรถส่วนตัวเข้ามาในจอดในบริเวณตลาดสำเพ็ง เพราะนอกจากที่จะหาที่จอดยากแล้ว ท่านอาจจะต้องเสียค่าบริการที่ค่อนข้างสูงมาก หากแต่จำเป็น
สองเท้าพา เดินแนะนำให้จอดสถานที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลวังบูรพา , ห้างดิโอสยาม หรือ ห้างเมอรี่คิงส์ ,
หลังจากนั้นให้ท่าน ต่อรถตุ๊กตุ๊กสามล้อมาที่ตลาดสำเพ็งและขากลับที่จอดรถของท่านเช่นกัน
เสน่ห์ ของสินค้าและร้านค้าที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ เป็นตลาดที่เหมาะกับนักช็อปทุกรายจริงๆ ไม่ว่าท่านนักช็อปจะซื้อสินค้าเพียงชิ้นเดียวหรือซื้อเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้น ท่านก็จะ
ต้องมารวมกันที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ สินค้าที่ตลาดสำเพ็งถือได้ ว่าเป็นสินค้าที่นำสมัยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเทศกาลตรุษจีน , คริสต์มาส ,วาเลนไทน์ , ปีใหม่ , สงกรานต์ ที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้จะมีสินค้าตามเทศกาลวางขายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เรียกได้ว่าท่านสามารถการซื้อได้จุใจ ทุกไซด์ ทุกขนาด ทุกราคาเลยละค่ะ
หลักง่าย สำหรับท่านนักช็อปที่ไม่ต้องการหาสินค้า แต่หากต้องการเข้าถึงสินค้าที่ต้องการซื้อเลย สองเท้าพาเดินขอแนะนำให้ไปที่จุดศูนย์รวมของสินค้าที่ตลาดสำเพ็ง คือที่ห้าง คิคูญ่า ที่นี่จะมีร้านค้าอยู่ภายในหลายร้านมาก แบ่งเป็นชั้นๆ จะรวมขายสินค้าหลากหลายชนิด หากท่าน
ยังไม่พอใจสินค้าภายในห้างท่านนัก ช็อปก็สามารถ เดินหาสินค้าบริเวณรอบห้างที่มีไม่ต่ำกว่า 100 ร้านค้า เรียกได้ว่าท่านช็อปที่นี่ท่านนักช็อปจะประหยัดพลังงานได้อีกเยอะ
แต่สำหรับท่าน นักช็อปที่มีเวลาและพลังงานเหลือหน่อย ทางทีมงานขอแนะนำให้ท่านนักช็อปแวะเข้าไปดูสินค้า ในซอย วานิช 1 ท่าน นักช็อปจะได้พบกับสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นทั้งเรื่องรูปแบบและราคา ยิ่งท่านเดินมากท่านก็จะพบกับสินค้าที่แปลกตามากมายขึ้นทางทีม
ยังรู้สึก ตื่นเต้นไปกับรูปแบบของสินค้าที่แปลกๆใหมๆ่ทั้งหลายเหมือนกันค่ะ
สิ่งที่ท่านนักช็อปไม่ครวพลาดคือการต่อรองราคาที่เหมาะสม เพราะความหลากหลายของสินค้า ทำให้ท่านพ่อค้าแม่ค้ากำหนดราคาสินค้าไม่เท่ากัน แต่หากท่านพอใจกับสินค้าที่ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องต่อรอง ทีมงานขอยืนยันว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้เป็นราคาที่เหมาะสม
อยู่แล้ว เพียงแต่แนะนำสำหรับท่านนักช็อปที่ซื้อจำนวนมากๆเท่านั้นที่จะพอเห็นส่วน ต่างของราคาบ้าง
ที่ อยู่ : ตั้งอยู่บนถนนหลาย สาย กินพื้นที่ค่อนข้างมากมีถนนเข้าสู่ตลาดสำเพ็งหลายสาย เช่น ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร
ถ. จักรเพชร ตั้งอยู่ในซอยหลักตลอดสายคือ ซอยวานิช 1 และยังมีซอยย่อยอีกหลายซอยกว่า เกือบ 10 ซอย บางซอยรถก็สามารถผ่านได้บาง
ซอยก็ยกเว้นให้คนเดินอย่าง เดียว พื้นที่ของตลาดอยู่ในความรับผิดชอบของเขต สัมพันธวงศ์และ เขตพระนครคาบเกี่ยวกันพื้นที่ของตลาดเป็น
ลักษณะสี่เหลี่ยมเข้าออกได้ หลายทาง
เวลาเปิด-ปิด : ตลาดสำ เพ็ง จะเป็นตลาดเปิด คือ เปิดขายสินค้าทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้า 9.00 น.ถึงช่วงเย็นแก่ๆ หากแต่ในช่วงวันหยุด
ราชการ จะมีผู้คนที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าค่อนข้างจะมากกว่าวันปกติ ร้านค้าในตลาดสำเพ็งจะเปิดไม่พร้อมกันขึ้นอยู่เจ้าของร้านแต่ละร้าน
ลักษณะ ของร้านค้าที่ตลาดสำเพ็งจะเป็นลักษณธของร้านทั้งร้านตึกแถวและร้านที่เป็น แผงลอย และเป็นร้านที่อยู่ในห้าง คิคูญ่า รูปแบบของร้าน
ที่ตลาดสำเพ็งจะ มีหลากหลายไซด์มาก
ข้อ แนะนำ : ท่านนัก ช็อปที่มีความจำเป็นที่จะต้องมาใช้บริการที่ตลาดสำเพ็งแห่งนี้ สองเท้าพาเดินขอแนะนำว่าไม่ควรนำรถส่วนตัวเข้ามาในจอดในบริเวณตลาดสำเพ็ง เพราะนอกจากที่จะหาที่จอดยากแล้ว ท่านอาจจะต้องเสียค่าบริการที่ค่อนข้างสูงมาก หากแต่จำเป็น
สองเท้าพา เดินแนะนำให้จอดสถานที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลวังบูรพา , ห้างดิโอสยาม หรือ ห้างเมอรี่คิงส์ ,
หลังจากนั้นให้ท่าน ต่อรถตุ๊กตุ๊กสามล้อมาที่ตลาดสำเพ็งและขากลับที่จอดรถของท่านเช่นกัน
ตลาดสำเพ็ง, แหล่งช็อปปิ้ง, กิ๊ปช็อป, เครื่องเขียน, ตลาดขายส่ง
ตลาดสำเพ็ง, แหล่งช็อปปิ้ง, กิ๊ปช็อป, เครื่องเขียน, ตลาดขายส่ง
ถ้าจะเอ่ยถึงแหล่งช็อปปิ้ง ของ กิ๊ปช็อป แล้วต้องนึกถึง ตลาดนี้แน่นอน “ตลาดสัมเพ็ง” แหล่งรวมของสินค้ากิ๊ปช็อป ของขาย ราคาถูก ขายปลีกและส่ง ถ้าเป็นเครื่องเขียน ของตกแต่ง แฟชั่นการแต่งกาย รับรองมาเลือกได้อย่างจุใจแน่
ตลาดสำเพ็ง อยู่คู่มานานหลายปี เป็นย่านการค้าของชาวจีน และมีเศรษฐกิจเงินหมุนเวียนจำนวนมากต่อวัน อยู่ใกล้กับเยาวราช มีถนนสำเพ็ง หรือถนนวานิช 1 ถ้าต้องการสินค้า ตลาดสำเพ็งขายตอนกลางคืน หรือตอนเช้าเปิดเวลา ตี3 – 7 โมงเช้า หรือจะไปเวลาตลาดลาดสำเพ็งเวลาปกติ 8โมงเช้า – 5 โมงเย็น ก็ไปเลือกช็อปได้ เลือกได้ว่า เปิดตั้งแต่ ตี3 – 17.00 น. เลยทีเดียว ถ้าว่างทำไรดี แนะนำมาเที่ยว ช็อปปิ้งที่ตลาดสำเพ็ง
ตลาดสำเพ็งตอนเช้า
ความสนุกในการช็อปปิ้งในตอนเช้า ของสดๆ สินค้าใหม่ เลือกก่อนใคร การไปในตอนเช้า ตื่นเช้าๆ อากาศจะสดชื้นมากไม่ร้อน อากาศกำลังดี เหมาะกับการช็อปปิ้งมาก เลือกชื้อสินค้า ตลาดสัมเพง ได้บรรยากาศที่คุณไม่เคยเห็นเลยทีเดียว ตลาดสัมเพ็ง มีสินค้าให้เลือกชื้อเหมาถูกๆ จำนวนมาก หรือจะซื้อยกโหลก็มีขายที่สำเพ็งแห่งนี้
สินค้าตลาดสำเพ็ง
สําเพ็งมีอะไรขายบ้าง ตลาดสำเพ็งขายปลีกและส่ง สินค้าจำพวก กิ๊ปช็อป เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย ของใช้ในครัวเรือน ของเล่นที่คาดผม อัลบั้มรูป สินค้ากิ๊ฟช็อปทุกชนิด ตุ๊กตา สร้อยคอ วิกผม หมวก ของตกแต่งกาย สร้อย นาฬิกา แว่นตา ถุงเท้ารองเท้า เสื้อผ้า ผ้าขนหนู และไปถึงเครื่องเขียนลวดลายสีสันสดุดตา มีเพียบกับตลาดแห่งนี้ เครื่องสังฆทาน ของเล่น พวกกุญแจ ของตกแต่งร่างกาย สินค้า20บาทจากจีน สินค้า ทุกอย่าง 10บาท 20 บาท 30 บาท ขายส่งราคาถูก สินค้ายกลัง ยกล็อต ขายยกกล่อง สินค้ายกกโหล นับได้ว่าสินค้าในตลาดสำเพ็งมีให้เลือกหลากหลายอย่างมาก
สินค้าขายส่ง
สำเพ็งขายของถูก และจะมีพ่อค้าแม่ค้า มารับของไปขายต่อ ขายต่างจังหวัด ขายปลีก กำไรเยอะเหมือนกัน สำหรับการค้าขายที่รับจากสำเพ็ง ไปขายต่อ ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง รับสินค้าไปขายต่อต่างจังหวัด กำไร 60 % เลยทีเดียว และถ้าขายผ่อน ยิ่งได้กำไรเยอะมากว่าเดิมอีก แต่ต้องมีทุนหมุนมากพอสมควรถึงจะทำได้
การเดินทางไปตลาดสำเพ็ง
สามารถเดินทางด้วยรถเมล์ สาย สาย 4, 7 , 21, 37, 40, 56 ,73, 529, 542 ลงรถที่ถนนจักรวรรดิ เดินช็อป ถนนวานิช 1 หรือ สาย 204 ลงตรงถนนราชวงศ์
แผนที่สำเพ็ง
เส้นทางเดินรถโดยสาร ไปสำเพ็ง แนะนำเดินทางไว้ว่า “เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ หรือ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู” ทางเข้าสู่ตลาดสำเพ็. มีหลายทาง ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร ถ. จักรเพชร เชื่อมต่อกันได้ทางหลักเข้าไปที่ถนนวานิช 1
ถ้าไม่ทราบหรือไม่รู้ เดินทางไปอย่างไร ให้ถามคนอื่น ถ้าขึ้นรถแล้วไม่ทราบให้บอกกระเป๋ารถเมล์ด้วยว่า ไปสำเพ็ง ถ้าถึงแล้วช่วยบอกด้วยนะครับ จะง่ายกว่างมเดินทางไปเรื่อย ค้นพบเอง เดียวจะเหนื่อยเสียก่อน ที่จะได้ช็อปปิ้ง
จากเดินทางไปช็อปปิ้งที่ตลาดสำเพ็งเสร็จก็ลุยต่อไปที่ ตลาดเยาวราช กินเที่ยวช็อปให้สะใจไปเลย อยู่ใกล้กัน และเดินลุยต่อไปที่คลองถม แหล่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ลำโพง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง แหล่งสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกกัน รับรองว่ามันแน่ๆงานนี้
การเลือกสินค้าตลาดสำเพ็งขายส่ง สินค้าที่ขายในตลาดแห่งนี้มีจำนวนหลายร้านค้า ถ้าคุณจะสั่งของชื้อทางอินเตอร์เน็ต มันจะค้นหาไม่เจอ และจะไม่รู้ด้วยว่าร้านไหนขายของดี ราคาถูกที่สุด หมายถึง ของดีไม่จำเป็นต้องราคาต่ำที่สุด แต่ต้องคุณภาพกับราคาต้องมาคู่กัน
ถ้าจะให้เลือกชื้อสินค้าไปขายต่อ ต้องมาดูด้วยตัวเอง และเลือกชื้อด้วยตัวเอง ถ้าร้านไหนดี ก็ติดต่อของเบอร์โทรศัพท์ไว้ และเว็บไซด์ เพื่อจะได้สั่งครั้งต่อไป เพื่อเป็นการไปดูสินค้าด้วยตัวเอง และถามเจ้าของร้านเรื่องการขายส่งอย่างไร ราคาเท่าไร กรณีรับไปขายเยอะ ลดให้อีกได้ไหม ถ้ายังของเยอะ แล้วจะส่งให้วันไหน อีกกี่วันจะได้รับของ ส่งให้ทางไหน ขนส่ง หรือพัสดุ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายปลีก รับช่วงต่อ มันเป็นเทคนิคในค้าให้ได้สินค้าดีคุณภาพ และราคาไปกันได้
ถ้าจะเอ่ยถึงแหล่งช็อปปิ้ง ของ กิ๊ปช็อป แล้วต้องนึกถึง ตลาดนี้แน่นอน “ตลาดสัมเพ็ง” แหล่งรวมของสินค้ากิ๊ปช็อป ของขาย ราคาถูก ขายปลีกและส่ง ถ้าเป็นเครื่องเขียน ของตกแต่ง แฟชั่นการแต่งกาย รับรองมาเลือกได้อย่างจุใจแน่
ตลาดสำเพ็ง อยู่คู่มานานหลายปี เป็นย่านการค้าของชาวจีน และมีเศรษฐกิจเงินหมุนเวียนจำนวนมากต่อวัน อยู่ใกล้กับเยาวราช มีถนนสำเพ็ง หรือถนนวานิช 1 ถ้าต้องการสินค้า ตลาดสำเพ็งขายตอนกลางคืน หรือตอนเช้าเปิดเวลา ตี3 – 7 โมงเช้า หรือจะไปเวลาตลาดลาดสำเพ็งเวลาปกติ 8โมงเช้า – 5 โมงเย็น ก็ไปเลือกช็อปได้ เลือกได้ว่า เปิดตั้งแต่ ตี3 – 17.00 น. เลยทีเดียว ถ้าว่างทำไรดี แนะนำมาเที่ยว ช็อปปิ้งที่ตลาดสำเพ็ง
ตลาดสำเพ็งตอนเช้า
ความสนุกในการช็อปปิ้งในตอนเช้า ของสดๆ สินค้าใหม่ เลือกก่อนใคร การไปในตอนเช้า ตื่นเช้าๆ อากาศจะสดชื้นมากไม่ร้อน อากาศกำลังดี เหมาะกับการช็อปปิ้งมาก เลือกชื้อสินค้า ตลาดสัมเพง ได้บรรยากาศที่คุณไม่เคยเห็นเลยทีเดียว ตลาดสัมเพ็ง มีสินค้าให้เลือกชื้อเหมาถูกๆ จำนวนมาก หรือจะซื้อยกโหลก็มีขายที่สำเพ็งแห่งนี้
สินค้าตลาดสำเพ็ง
สําเพ็งมีอะไรขายบ้าง ตลาดสำเพ็งขายปลีกและส่ง สินค้าจำพวก กิ๊ปช็อป เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย ของใช้ในครัวเรือน ของเล่นที่คาดผม อัลบั้มรูป สินค้ากิ๊ฟช็อปทุกชนิด ตุ๊กตา สร้อยคอ วิกผม หมวก ของตกแต่งกาย สร้อย นาฬิกา แว่นตา ถุงเท้ารองเท้า เสื้อผ้า ผ้าขนหนู และไปถึงเครื่องเขียนลวดลายสีสันสดุดตา มีเพียบกับตลาดแห่งนี้ เครื่องสังฆทาน ของเล่น พวกกุญแจ ของตกแต่งร่างกาย สินค้า20บาทจากจีน สินค้า ทุกอย่าง 10บาท 20 บาท 30 บาท ขายส่งราคาถูก สินค้ายกลัง ยกล็อต ขายยกกล่อง สินค้ายกกโหล นับได้ว่าสินค้าในตลาดสำเพ็งมีให้เลือกหลากหลายอย่างมาก
สินค้าขายส่ง
สำเพ็งขายของถูก และจะมีพ่อค้าแม่ค้า มารับของไปขายต่อ ขายต่างจังหวัด ขายปลีก กำไรเยอะเหมือนกัน สำหรับการค้าขายที่รับจากสำเพ็ง ไปขายต่อ ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง รับสินค้าไปขายต่อต่างจังหวัด กำไร 60 % เลยทีเดียว และถ้าขายผ่อน ยิ่งได้กำไรเยอะมากว่าเดิมอีก แต่ต้องมีทุนหมุนมากพอสมควรถึงจะทำได้
การเดินทางไปตลาดสำเพ็ง
สามารถเดินทางด้วยรถเมล์ สาย สาย 4, 7 , 21, 37, 40, 56 ,73, 529, 542 ลงรถที่ถนนจักรวรรดิ เดินช็อป ถนนวานิช 1 หรือ สาย 204 ลงตรงถนนราชวงศ์
แผนที่สำเพ็ง
เส้นทางเดินรถโดยสาร ไปสำเพ็ง แนะนำเดินทางไว้ว่า “เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ หรือ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู” ทางเข้าสู่ตลาดสำเพ็. มีหลายทาง ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร ถ. จักรเพชร เชื่อมต่อกันได้ทางหลักเข้าไปที่ถนนวานิช 1
ถ้าไม่ทราบหรือไม่รู้ เดินทางไปอย่างไร ให้ถามคนอื่น ถ้าขึ้นรถแล้วไม่ทราบให้บอกกระเป๋ารถเมล์ด้วยว่า ไปสำเพ็ง ถ้าถึงแล้วช่วยบอกด้วยนะครับ จะง่ายกว่างมเดินทางไปเรื่อย ค้นพบเอง เดียวจะเหนื่อยเสียก่อน ที่จะได้ช็อปปิ้ง
จากเดินทางไปช็อปปิ้งที่ตลาดสำเพ็งเสร็จก็ลุยต่อไปที่ ตลาดเยาวราช กินเที่ยวช็อปให้สะใจไปเลย อยู่ใกล้กัน และเดินลุยต่อไปที่คลองถม แหล่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ลำโพง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง แหล่งสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกกัน รับรองว่ามันแน่ๆงานนี้
การเลือกสินค้าตลาดสำเพ็งขายส่ง สินค้าที่ขายในตลาดแห่งนี้มีจำนวนหลายร้านค้า ถ้าคุณจะสั่งของชื้อทางอินเตอร์เน็ต มันจะค้นหาไม่เจอ และจะไม่รู้ด้วยว่าร้านไหนขายของดี ราคาถูกที่สุด หมายถึง ของดีไม่จำเป็นต้องราคาต่ำที่สุด แต่ต้องคุณภาพกับราคาต้องมาคู่กัน
ถ้าจะให้เลือกชื้อสินค้าไปขายต่อ ต้องมาดูด้วยตัวเอง และเลือกชื้อด้วยตัวเอง ถ้าร้านไหนดี ก็ติดต่อของเบอร์โทรศัพท์ไว้ และเว็บไซด์ เพื่อจะได้สั่งครั้งต่อไป เพื่อเป็นการไปดูสินค้าด้วยตัวเอง และถามเจ้าของร้านเรื่องการขายส่งอย่างไร ราคาเท่าไร กรณีรับไปขายเยอะ ลดให้อีกได้ไหม ถ้ายังของเยอะ แล้วจะส่งให้วันไหน อีกกี่วันจะได้รับของ ส่งให้ทางไหน ขนส่ง หรือพัสดุ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ขายปลีก รับช่วงต่อ มันเป็นเทคนิคในค้าให้ได้สินค้าดีคุณภาพ และราคาไปกันได้
สำเพ็งคืออไร?
สำเพ็ง
ตลาด สำเพ็ง เเหล่งช๊อปปิ้งราคาถูก ขายปลีก และส่ง
หลายคนเคยได้ยินมาว่า ถ้าจะหาสินค้า ราคาถูก มาขายให้ไปซื้อที่ "สำเพ็ง" แล้วไอ้ "สำเพ็ง" มันคืออะไรหล่ะ อยู่ที่ไหน ไปได้อย่างไร มีอะไรขายบ้าง เปิดวันไหน อยากรู้ไหมหล่ะ เด่วไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า
สำเพ็งคืออะไร
สำเพ็ง คือ แหล่งรวมสินค้า กิ๊บช๊อป เครื่องเขียน แฟชั่นการแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า ตุํกตา สร้อยคอ ที่คาดผม อัลบั้มรูป นาฬิกา วิกผม หมวก แว่นตา ของเล่น ราคาถูก ขายปลีกและส่ง มีสินค้ามากมายมีให้เลือกมากมาย
สำเพ็งอยู่ที่ไหน
ตลาดสำเพ็งอยู่ใกล้กับเยาวราช อยู่คู่กันมานานหลายปี สำเพ็ง เป็นย่านการค้าของชาวจีน และมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากต่อวัน หากว่างๆ และอยากได้ของถูกแนะนำให้ไปที่สำเพ็งได้เลยนะค่ะ
ไปสำเพ็งยังไง
สำหรับการเดินทางไปสำเพ็งง่ายนิดเดียว ไปกันเลยดีกว่า
1. Taxi หากไม่เคยไปสำเพ็งเลย และต้องการความสะดวก สบายหน่อยแนะนำให้นั่ง taxi ไปดีที่สุดค่ะ (นั่งจากอนุสาวรีย์ไปประมาณ 70 บาท เองค่ะ)
2. รถประจำทาง
- สาย 4, 7 , 21, 37, 40, 56 ,73, 529, 542 ลงรถที่ถนนจักรวรรดิ เดินช็อป ถนนวานิช 1
- สาย 204 ลงตรงถนนราชวงศ์
แนะนำการเดินทาง
เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู" ทางเข้าสู่ตลาดสำเพ็ง มีหลายทาง ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร ถ. จักรเพชร เชื่อมต่อกันได้ทางหลักเข้าไปที่ถนนวานิช 1
ถ้าไม่ทราบหรือไม่รู้เดินทางไปอย่างไร ให้ถามคนอื่น ถ้าขึ้นรถแล้วไม่ทราบให้บอกกระเป๋ารถเมล์ด้วยว่า ไปสำเพ็ง ถ้าถึงแล้วช่วยบอกด้วยนะค่ะ จะง่ายกว่าเดินทางไปเรื่อย ค้นพบเอง เดียวจะเหนื่อยเสียก่อน ที่จะได้ช็อปปิ้ง
สำเพ็งเปิดวันไหน
สำเพ็ง เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยมีเวลาให้เลือกช๊อป ได้ 2 ช่วง
1. ตลาดเช้าสำเพ็ง เริ่มเวลาประมาณ ตี 3 - 7 โมงเช้า เป็นตลาดขายส่งพวกกิ๊ปช้อป กระเป๋า ตุ๊กตา และอ่ืนนๆ อีกมากมาย ส่วนมากจะเป็นสินค้าที่มาจากโรงงานจึงทำให้มีแต่ของราคาถูก หากต้องการไปซื้อของมาขายแนะนำให้ไปตลาดเช้าเลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง ขอเตือน!! ให้พกเงินไปเยอะๆๆๆ นะ เด่วจะไม่พอจ่าย 555+ แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปตลาดเช้าสำเพ็ง ก็ไปเวลาปกติได้นะค่ะมีของขายเหมือนกัน เเต่ตลาดเช้าปิดทุกวันจันทร์นะค่ะ
2. ตลาดสำเพ็ง เวลาปรกติจะเริ่มตั้งแต่ 8.00 - 17.00 (แต่บ่าย 2 เขาก็เริ่มเก็บของกันเเล้วนะค่ะ) ช่วงเวลาปกติจะเป็นสินค้าที่ทางร้านในสำเพ็งเปิดขายเอง ขายปลีกเเละขายส่งราคาค่อนข้างเเพงกว่าตอนเช้านิดหน่อย แต่ก็มีของให้เลือกมากมายเช่นกัน ไปแล้วรับรองไม่ผิดหวัง แต่ต้องพกเงินไปเยอะๆๆหน่อยนะ
ตลาดเช้าสำเพ็ง
ตลาดเช้าสำเพ็งมีสินค้าวางขายตลอดซอยวานิช 1 ตั้งเเต่ต้นซอย จากถนนจักรวรรดิ ไปจนถึงถนนราชวงศ์ ตอนเช้าจะคึกคักมาก มีพ่อค้า แม่ค้า จากทุกสารทิศมาซื้อของที่นี้กันประจำ หากไปซื้อของแนะนำไปตลาดเช้าวันเสาร์ เพราะจะมีสินค้าใหม่ๆ มาลงเพียบเลย ไปทีไรตังไม่พอจ่ายทุกที อิอิ!! {ไปคราวหน้าสัญญาว่าจะมาอัพรูปให้เพื่อนๆอิจฉากันเลย}
สำเพ็งมีอะไรขายบ้าง
1. เครื่องประดับผม กิ๊ฟ ตัวหนีบ ที่นิยมกันของสาวๆๆ ตัวละ 2 บาท
2. สร้อยคอแบบเกาหลี ที่สาวๆ ชอบใส่กัน
3. วิกผม น้ำยาทาเล็บ ล้างเล็บ
4. เครื่องเงิน สร้อย เเหวน
5. นาฬิกา เรือนละ 25 บาท เอามาขาย 100 บาทได้สบายๆๆ
6. กระเป๋า
7. รองเท้า
8. ต่างหู คู่ละ 2.50 บาท
9. เครื่องสำอาง
10. ตุ๊กตา ลิขสิทธิ์ราคาถูกๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆๆ
11. ร่ม
12. เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ
ทำไมต้องไปตลาดเช้าสำเพ็ง
1. มีของให้เลือกมากมาย
2. ได้ของราคาถูกๆๆๆๆ มาขายทำให้ได้กำไรดี อิอิ!!
3. อากาศดี ไม่ร้อนเกินไป เวลาเดินทำให้ไม่เหนื่อย
4. รถไม่เยอะ และไม่ติดด้วย
5. คนไม่พลุกพล่าน ส่วนมากมีแต่พวกแม่ค้ามาซื้อของไปขาย
6. หาที่จอดรถง่าย
ไปสำเพ็ง จอดรถที่ไหน
1. ถ้าไปตลาดเช้าเห็นเขาจอดริมถนนก็มี เพราะรถไม่เยอะ ถนนโล่งมาก
2. วัดชนะสงคราม
3. วัดจักรวรรดิ์ (วัดสามปลื้ม) ชั่วโมงละ 20 บาท
เเหล่งขายส่ง กระเป๋าแฟชั่น สำเพ็ง ราคาถูก
ร้านขายกระเป๋าเจ้าประจำที่แม่ค้าไปรับของมาขาย เผื่อใครสนใจลองโทรไปได้นะค่ะ
1. ร้านกระเป๋า คุณเล็ก Tel : 087-717-7290 อยู่ติดถนนราชวงศ์ ร้านเเรกเลยค่ะ ราคาส่ง 3 ใบขึ้นไป ราคาตั้งเเต่ 130 - 180 บาท ร้านนี้ไปอุดหนุนประจำค่ะ
2. ร้าน Modern Club Tel : 081-496-1660 อยู่ซอยวานิช1 ขายส่ง 3 ใบขึ้นไป ราคาตั้งเเต่ 130 - 250 บาท ชอบกระเป๋าร้านนี้มากไปทีไรก็ไปอุดหนุน เพราะเค้ามีกระเป๋าเเฟชั่นทันสมัยมา update ตลอดเวลา
ตลาด สำเพ็ง เเหล่งช๊อปปิ้งราคาถูก ขายปลีก และส่ง
หลายคนเคยได้ยินมาว่า ถ้าจะหาสินค้า ราคาถูก มาขายให้ไปซื้อที่ "สำเพ็ง" แล้วไอ้ "สำเพ็ง" มันคืออะไรหล่ะ อยู่ที่ไหน ไปได้อย่างไร มีอะไรขายบ้าง เปิดวันไหน อยากรู้ไหมหล่ะ เด่วไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า
สำเพ็งคืออะไร
สำเพ็ง คือ แหล่งรวมสินค้า กิ๊บช๊อป เครื่องเขียน แฟชั่นการแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า ตุํกตา สร้อยคอ ที่คาดผม อัลบั้มรูป นาฬิกา วิกผม หมวก แว่นตา ของเล่น ราคาถูก ขายปลีกและส่ง มีสินค้ามากมายมีให้เลือกมากมาย
สำเพ็งอยู่ที่ไหน
ตลาดสำเพ็งอยู่ใกล้กับเยาวราช อยู่คู่กันมานานหลายปี สำเพ็ง เป็นย่านการค้าของชาวจีน และมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากต่อวัน หากว่างๆ และอยากได้ของถูกแนะนำให้ไปที่สำเพ็งได้เลยนะค่ะ
ไปสำเพ็งยังไง
สำหรับการเดินทางไปสำเพ็งง่ายนิดเดียว ไปกันเลยดีกว่า
1. Taxi หากไม่เคยไปสำเพ็งเลย และต้องการความสะดวก สบายหน่อยแนะนำให้นั่ง taxi ไปดีที่สุดค่ะ (นั่งจากอนุสาวรีย์ไปประมาณ 70 บาท เองค่ะ)
2. รถประจำทาง
- สาย 4, 7 , 21, 37, 40, 56 ,73, 529, 542 ลงรถที่ถนนจักรวรรดิ เดินช็อป ถนนวานิช 1
- สาย 204 ลงตรงถนนราชวงศ์
แนะนำการเดินทาง
เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู" ทางเข้าสู่ตลาดสำเพ็ง มีหลายทาง ถนนเยาวราช , ถ.ราชวงศ์ , ถ.มังกร , ถ. มหาจักร ถ. จักรเพชร เชื่อมต่อกันได้ทางหลักเข้าไปที่ถนนวานิช 1
ถ้าไม่ทราบหรือไม่รู้เดินทางไปอย่างไร ให้ถามคนอื่น ถ้าขึ้นรถแล้วไม่ทราบให้บอกกระเป๋ารถเมล์ด้วยว่า ไปสำเพ็ง ถ้าถึงแล้วช่วยบอกด้วยนะค่ะ จะง่ายกว่าเดินทางไปเรื่อย ค้นพบเอง เดียวจะเหนื่อยเสียก่อน ที่จะได้ช็อปปิ้ง
สำเพ็งเปิดวันไหน
สำเพ็ง เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยมีเวลาให้เลือกช๊อป ได้ 2 ช่วง
1. ตลาดเช้าสำเพ็ง เริ่มเวลาประมาณ ตี 3 - 7 โมงเช้า เป็นตลาดขายส่งพวกกิ๊ปช้อป กระเป๋า ตุ๊กตา และอ่ืนนๆ อีกมากมาย ส่วนมากจะเป็นสินค้าที่มาจากโรงงานจึงทำให้มีแต่ของราคาถูก หากต้องการไปซื้อของมาขายแนะนำให้ไปตลาดเช้าเลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง ขอเตือน!! ให้พกเงินไปเยอะๆๆๆ นะ เด่วจะไม่พอจ่าย 555+ แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปตลาดเช้าสำเพ็ง ก็ไปเวลาปกติได้นะค่ะมีของขายเหมือนกัน เเต่ตลาดเช้าปิดทุกวันจันทร์นะค่ะ
2. ตลาดสำเพ็ง เวลาปรกติจะเริ่มตั้งแต่ 8.00 - 17.00 (แต่บ่าย 2 เขาก็เริ่มเก็บของกันเเล้วนะค่ะ) ช่วงเวลาปกติจะเป็นสินค้าที่ทางร้านในสำเพ็งเปิดขายเอง ขายปลีกเเละขายส่งราคาค่อนข้างเเพงกว่าตอนเช้านิดหน่อย แต่ก็มีของให้เลือกมากมายเช่นกัน ไปแล้วรับรองไม่ผิดหวัง แต่ต้องพกเงินไปเยอะๆๆหน่อยนะ
ตลาดเช้าสำเพ็ง
ตลาดเช้าสำเพ็งมีสินค้าวางขายตลอดซอยวานิช 1 ตั้งเเต่ต้นซอย จากถนนจักรวรรดิ ไปจนถึงถนนราชวงศ์ ตอนเช้าจะคึกคักมาก มีพ่อค้า แม่ค้า จากทุกสารทิศมาซื้อของที่นี้กันประจำ หากไปซื้อของแนะนำไปตลาดเช้าวันเสาร์ เพราะจะมีสินค้าใหม่ๆ มาลงเพียบเลย ไปทีไรตังไม่พอจ่ายทุกที อิอิ!! {ไปคราวหน้าสัญญาว่าจะมาอัพรูปให้เพื่อนๆอิจฉากันเลย}
สำเพ็งมีอะไรขายบ้าง
1. เครื่องประดับผม กิ๊ฟ ตัวหนีบ ที่นิยมกันของสาวๆๆ ตัวละ 2 บาท
2. สร้อยคอแบบเกาหลี ที่สาวๆ ชอบใส่กัน
3. วิกผม น้ำยาทาเล็บ ล้างเล็บ
4. เครื่องเงิน สร้อย เเหวน
5. นาฬิกา เรือนละ 25 บาท เอามาขาย 100 บาทได้สบายๆๆ
6. กระเป๋า
7. รองเท้า
8. ต่างหู คู่ละ 2.50 บาท
9. เครื่องสำอาง
10. ตุ๊กตา ลิขสิทธิ์ราคาถูกๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆๆ
11. ร่ม
12. เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ
ทำไมต้องไปตลาดเช้าสำเพ็ง
1. มีของให้เลือกมากมาย
2. ได้ของราคาถูกๆๆๆๆ มาขายทำให้ได้กำไรดี อิอิ!!
3. อากาศดี ไม่ร้อนเกินไป เวลาเดินทำให้ไม่เหนื่อย
4. รถไม่เยอะ และไม่ติดด้วย
5. คนไม่พลุกพล่าน ส่วนมากมีแต่พวกแม่ค้ามาซื้อของไปขาย
6. หาที่จอดรถง่าย
ไปสำเพ็ง จอดรถที่ไหน
1. ถ้าไปตลาดเช้าเห็นเขาจอดริมถนนก็มี เพราะรถไม่เยอะ ถนนโล่งมาก
2. วัดชนะสงคราม
3. วัดจักรวรรดิ์ (วัดสามปลื้ม) ชั่วโมงละ 20 บาท
เเหล่งขายส่ง กระเป๋าแฟชั่น สำเพ็ง ราคาถูก
ร้านขายกระเป๋าเจ้าประจำที่แม่ค้าไปรับของมาขาย เผื่อใครสนใจลองโทรไปได้นะค่ะ
1. ร้านกระเป๋า คุณเล็ก Tel : 087-717-7290 อยู่ติดถนนราชวงศ์ ร้านเเรกเลยค่ะ ราคาส่ง 3 ใบขึ้นไป ราคาตั้งเเต่ 130 - 180 บาท ร้านนี้ไปอุดหนุนประจำค่ะ
2. ร้าน Modern Club Tel : 081-496-1660 อยู่ซอยวานิช1 ขายส่ง 3 ใบขึ้นไป ราคาตั้งเเต่ 130 - 250 บาท ชอบกระเป๋าร้านนี้มากไปทีไรก็ไปอุดหนุน เพราะเค้ามีกระเป๋าเเฟชั่นทันสมัยมา update ตลอดเวลา
สำเพ็งปิดวันไหน
สำเพ็งปิดวันไหน
เป็นคำถามที่หลายๆท่าน ค้างคาใจมากๆ ว่าสำเพ็งปิดวันไหนบ้าง
วันหยุดราชการ ปิดไหม สงกรานต์ ตรุษจีน ปีใหม่ ปิดไหม
กลางวันกลางคืน ปิดไหม อย่างไร
งั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
ทุกสัปดาห์ในคืนวันอาทิตย์ ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์ ตลาดเช้าสำเพ็งจะ ปิิด ค่ะ ที่ปิดจริงๆก็มีแค่นี้
นอกนั้น
ในวันจันทร์ ถึง ศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ตอนกลางวัน 8.00-17.00 สำเพ็งเปิดปรกติ ตลอด ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด ราชการ นักขัตฤกษ์ วันตรุษ วันสงกรานต์ เปิดตลอด อาจจะมีบางร้านปิดในวันตรุษใหญ่ๆ แต่ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าขาจร ขาประจำ มาวางของขายแทนตลอด ไม่ต้องกลัวร้าง หรือมาแล้วไม่เจอใครขายอะไรเลย
ใครที่อยากมาสำเพ็งช่วงกลางคืน จึงเพียงแค่จดไว้ว่าไม่ต้องมาในคืนวันอาทิตย์ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์นะคะ เพราะมันจะเงียบเหงา ร้าง ให้มาตอนเช้าวันจันทร์เลย ตั้งแต่ 8.00 เป็นต้นไป อันนี้เจอของขายแน่นอน
ในทุกวันช่วงเย็น สำเพ็งรอบกลางวัน จะเก็บร้าน เก็บข้าวของกันประมาณ ห้าโมงเย็นค่ะ ถ้าใครมาไม่ทันห้าโมงเย็น ต้องมาใหม่โน่นเลย รอสำเพ็งตลาดเช้าตีสองจ้า
เป็นคำถามที่หลายๆท่าน ค้างคาใจมากๆ ว่าสำเพ็งปิดวันไหนบ้าง
วันหยุดราชการ ปิดไหม สงกรานต์ ตรุษจีน ปีใหม่ ปิดไหม
กลางวันกลางคืน ปิดไหม อย่างไร
งั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
ทุกสัปดาห์ในคืนวันอาทิตย์ ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์ ตลาดเช้าสำเพ็งจะ ปิิด ค่ะ ที่ปิดจริงๆก็มีแค่นี้
นอกนั้น
ในวันจันทร์ ถึง ศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ตอนกลางวัน 8.00-17.00 สำเพ็งเปิดปรกติ ตลอด ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด ราชการ นักขัตฤกษ์ วันตรุษ วันสงกรานต์ เปิดตลอด อาจจะมีบางร้านปิดในวันตรุษใหญ่ๆ แต่ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าขาจร ขาประจำ มาวางของขายแทนตลอด ไม่ต้องกลัวร้าง หรือมาแล้วไม่เจอใครขายอะไรเลย
ใครที่อยากมาสำเพ็งช่วงกลางคืน จึงเพียงแค่จดไว้ว่าไม่ต้องมาในคืนวันอาทิตย์ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์นะคะ เพราะมันจะเงียบเหงา ร้าง ให้มาตอนเช้าวันจันทร์เลย ตั้งแต่ 8.00 เป็นต้นไป อันนี้เจอของขายแน่นอน
ในทุกวันช่วงเย็น สำเพ็งรอบกลางวัน จะเก็บร้าน เก็บข้าวของกันประมาณ ห้าโมงเย็นค่ะ ถ้าใครมาไม่ทันห้าโมงเย็น ต้องมาใหม่โน่นเลย รอสำเพ็งตลาดเช้าตีสองจ้า
สำเพ็ง ตลาดเช้า
สำเพ็ง ตลาดเช้า
คงเป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับหลายๆท่าน ถ้าหลายท่านยังไม่คุ้นก็อาจจะเคยได้ยินแว่วๆ ว่าเวลาไปรับของมาขายให้ไปดูที่สำเพ็ง สำเพ็งตลาดเช้า จะเริ่มเวลาประมาณ ตีสาม - 7 โมงเช้า ค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกเวลานั้น ตลาดจะวาย แต่ไม่ต้องเสียใจ หรือกลัวไปเก้อ เพราะเวลาทำการปรกติของสำเพ็ง คือ 8.00-17.00 ก็มีของขายเพียบค่ะ ทำไมต้องไปตลาดเช้า ??? ตลาดเช้า จะมีของหลากหลายมากกว่ากลางวัน เพราะพ่อค้าแม่ค้า ยี่ปั๊วจะนำสินค้ามาวางขายตลอดแนวซอยวานิช 1 ตั้งแต่ต้นซอย จากด้านถนนจักรวรรดิ ไปจนถึงถนนราชวงศ์ (ที่เรียกว่า คิคุย่า เก่า) เชื่อกันว่า น่าจะถูกกว่าเวลาปรกติ อีกอย่างเวลาไปตอนเช้ามืด มันสนุกดี ฮ่าๆ สินค้า มีอะไรบ้าง ?? ถ้าท่านใดสนใจจะขายของต่อไปนี้ ต้องอย่าพลาดไปตลาดเช้าสำเพ็งค่ะ - กิ๊บติดผม คาดผม เครื่องประดับผม ตัวหนีบ หรืออะไรที่นิยมในยุคนั้นๆ - สร้อยคอแบบเกาหลี สร้อยคอลูกปัดแบบที่สาวออฟฟิศชอบใส่ - วิกผม ผมปลอม ปอยผม สำหรับประดับ หูแมว (สำหรับ cosplay ) หูแบบเป็นเขา - ที่ติดตู้เย็น ดอกไม้ปลอม เครื่องตกแต่งในบ้าน เครื่องแขวน - ตุ๊กตาโมเดลญี่ปุ่น (อันนี้ต้องเล็งๆดูนะคะ มีหลายร้าน แต่ไม่มากนัก) - ขนตาปลอม กาวติดขนตา เทคโนโลการตกแต่งขนตาทั้งหลาย มาสคาร่า อายไลเนอร์ ลิปติก แป้งเภสัช แป้งผัดหน้า บรัชออน น้ำหอม ยาทาเล็บ ยาล้างเล็บ ครีมโลชั่น สบู่ แชมพู เครื่องสำอาง-ต่างหูตั้งแต่ คู่ละ 2.50 บาท ไปจนถึงแบบเกาหลี อลังการณ์ดาวล้านดวง -กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ กระเป๋าโลกร้อน กระเป๋าคิตตี้ กระเป๋าผ้า กระเป๋าพีวีซี -ที่ ห้อยมือถือ พวงกุญแจ ตั้งแต่ disney เกรดเอมีลิขสิทธิ ไปจนถึงหมีเทดดี้ตัวละ 10 บาท (ถูกมาก หมีเทดดี้ 10 บาท ขยับแขนขาได้ เราเคยเหมามา 20 ตัว มาเล่นที่บ้านซะงั้น ) -คิดตี้ แซนริโอ้ เคโระ ตาโบะ ที่เป็นเครื่องเขียน นาฬิกา กระเป๋า ที่ใส่มือถือ จานชาม รองเท้าแตะ -เครื่องประดับผมเกาหลี ทุกประเภท -เครื่องเขียน สมุดปากกา กล่องดินสอ เหลากบ ยางลบ ปากกาเจล บลาๆ อะไรก็ตามที่มีขายในร้านเครื่องเขียน สำเพ็งตลาดเช้ามีแน่นอนค่ะ
ตลาดเช้าสำเพ็ง มาง่ายมากค่ะ เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ หรือ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู
ป้ายจักรวรรดิ คือป้ายสุดท้าย ก่อนขึ้นสะพานพระปกเกล้าไปฝั่งธนนะคะ พอลงจากรถเมล์จะเห็นวิวประมาณนี้ ก็เดินเข้าซอยไปเลยค่ะ ชื่อ ซอยวานิช 1 (ถนน วานิช 1 )
กลุ่มแรก คือ สินค้าพวกกิฟท์ช้อป เครื่องประดับผม สร้อยคอ ต่างหู แหวน กำไล คาดผม เครื่องประดับเกาหลี ทั้งหลาย กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง พวงกุญแจ ที่ห้อยมือถือ เครื่องเขียนแบบน่ารักๆ ไปจนถึงพวกกระดาษห่อของขวัญ สมุดปากกา บ้านๆทั่วไป
กลุ่มสอง คือ กลุ่มกระเป๋า รองเท้า กลุ่มนี้จะอยู่ท้ายๆ สำเพ็งหน่อย ถ้าใครรู้จักร้านทอง ตั้งโต๊ะกัง อันนี้จะอยู่โซนนั้นนะคะ ถ้าเดินไปจากต้นซอย วานิช 1 ก็พอข้ามถนนราชวงศ์ ก็จะเริ่มเข้าสู่โซนกระเป๋าก่อน
กระเป๋าก็มีทุกชนิดค่ะที่เค้าขายกัน อยากขายกระเป๋าแบบไหนก็ลองไปเดินดูนะคะ แบบพวก mirror AAA จริงๆก็มีค่ะ แต่บางร้านจะขายให้เฉพาะที่เป็นลูกค้าประจำเท่านั้น ต้องซื้อเยอะขั้นต่ำ 3 ใบ 6 ใบ
รองเท้า จะอยู่โซนท้าย ๆ เข้าไปอีก ถัดจากตรอกโรงโคมในแผนที่ รองเท้าแตะ รองเท้ายาง รองเท้าแฟชั่นแบบขาย 199 รองเท้าผ้าใบ อันนี้จะมีเยอะมาก ต้องไปเดินดูนะคะว่าอยากจะขายแบบไหน ส่วนมากขายส่งค่ะ ถ้าไปซื้อปลีก เค้าจะขายในราคา ++ เยอะเหมือนกัน
กลุ่มสาม ที่คิดว่าน่าจะเป็นของที่เอาไปขายต่อได้ดี ก้อพวกของเล่นค่ะ ของเล่นก็มีตั้งแต่ พวกเป็นแผงๆ ที่ขายตามร้านขายของชำ 5 บาท 1 บาท ตุ๊กตุ่น หม้อข้าวหม้อแกง ของเล่นน่ารักๆแบบ import จากญี่ปุ่น โมเดล อันนี้ก็เยอะค่ะ rement โมเดลแพงๆ อันนี้ก็มีหลายร้าน ไบลน์ เคยไปถามราคาถ้าซื้อส่งก้อลดได้นิดหน่อย พอ ๆ กับ pre จากเว็บพวกตุ๊กตาเป่าลม ตุ๊กตาสำหรับประดับบ้านตัวใหญ่ ๆ ที่ฮิต ๆ หรือพวกรถบังคับ เครื่องบินบังคับ อันนี้ก้อเพียบค่ะ ถ้าจะซื้อของเล่นไปขายต่อ คงต้องเดินสำรวจราคาเยอะ ๆ เพราะแต่ละร้านราคาต่างกันเยอะเหมือนกัน ยกเว้นพวกของเล่น 5 บาท 10 บาท ลูกโป่งเป่าลม ราคาพอๆกันค่ะ
คงเป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับหลายๆท่าน ถ้าหลายท่านยังไม่คุ้นก็อาจจะเคยได้ยินแว่วๆ ว่าเวลาไปรับของมาขายให้ไปดูที่สำเพ็ง สำเพ็งตลาดเช้า จะเริ่มเวลาประมาณ ตีสาม - 7 โมงเช้า ค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกเวลานั้น ตลาดจะวาย แต่ไม่ต้องเสียใจ หรือกลัวไปเก้อ เพราะเวลาทำการปรกติของสำเพ็ง คือ 8.00-17.00 ก็มีของขายเพียบค่ะ ทำไมต้องไปตลาดเช้า ??? ตลาดเช้า จะมีของหลากหลายมากกว่ากลางวัน เพราะพ่อค้าแม่ค้า ยี่ปั๊วจะนำสินค้ามาวางขายตลอดแนวซอยวานิช 1 ตั้งแต่ต้นซอย จากด้านถนนจักรวรรดิ ไปจนถึงถนนราชวงศ์ (ที่เรียกว่า คิคุย่า เก่า) เชื่อกันว่า น่าจะถูกกว่าเวลาปรกติ อีกอย่างเวลาไปตอนเช้ามืด มันสนุกดี ฮ่าๆ สินค้า มีอะไรบ้าง ?? ถ้าท่านใดสนใจจะขายของต่อไปนี้ ต้องอย่าพลาดไปตลาดเช้าสำเพ็งค่ะ - กิ๊บติดผม คาดผม เครื่องประดับผม ตัวหนีบ หรืออะไรที่นิยมในยุคนั้นๆ - สร้อยคอแบบเกาหลี สร้อยคอลูกปัดแบบที่สาวออฟฟิศชอบใส่ - วิกผม ผมปลอม ปอยผม สำหรับประดับ หูแมว (สำหรับ cosplay ) หูแบบเป็นเขา - ที่ติดตู้เย็น ดอกไม้ปลอม เครื่องตกแต่งในบ้าน เครื่องแขวน - ตุ๊กตาโมเดลญี่ปุ่น (อันนี้ต้องเล็งๆดูนะคะ มีหลายร้าน แต่ไม่มากนัก) - ขนตาปลอม กาวติดขนตา เทคโนโลการตกแต่งขนตาทั้งหลาย มาสคาร่า อายไลเนอร์ ลิปติก แป้งเภสัช แป้งผัดหน้า บรัชออน น้ำหอม ยาทาเล็บ ยาล้างเล็บ ครีมโลชั่น สบู่ แชมพู เครื่องสำอาง-ต่างหูตั้งแต่ คู่ละ 2.50 บาท ไปจนถึงแบบเกาหลี อลังการณ์ดาวล้านดวง -กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ กระเป๋าโลกร้อน กระเป๋าคิตตี้ กระเป๋าผ้า กระเป๋าพีวีซี -ที่ ห้อยมือถือ พวงกุญแจ ตั้งแต่ disney เกรดเอมีลิขสิทธิ ไปจนถึงหมีเทดดี้ตัวละ 10 บาท (ถูกมาก หมีเทดดี้ 10 บาท ขยับแขนขาได้ เราเคยเหมามา 20 ตัว มาเล่นที่บ้านซะงั้น ) -คิดตี้ แซนริโอ้ เคโระ ตาโบะ ที่เป็นเครื่องเขียน นาฬิกา กระเป๋า ที่ใส่มือถือ จานชาม รองเท้าแตะ -เครื่องประดับผมเกาหลี ทุกประเภท -เครื่องเขียน สมุดปากกา กล่องดินสอ เหลากบ ยางลบ ปากกาเจล บลาๆ อะไรก็ตามที่มีขายในร้านเครื่องเขียน สำเพ็งตลาดเช้ามีแน่นอนค่ะ
ตลาดเช้าสำเพ็ง มาง่ายมากค่ะ เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ หรือ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู
ป้ายจักรวรรดิ คือป้ายสุดท้าย ก่อนขึ้นสะพานพระปกเกล้าไปฝั่งธนนะคะ พอลงจากรถเมล์จะเห็นวิวประมาณนี้ ก็เดินเข้าซอยไปเลยค่ะ ชื่อ ซอยวานิช 1 (ถนน วานิช 1 )
กลุ่มแรก คือ สินค้าพวกกิฟท์ช้อป เครื่องประดับผม สร้อยคอ ต่างหู แหวน กำไล คาดผม เครื่องประดับเกาหลี ทั้งหลาย กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง พวงกุญแจ ที่ห้อยมือถือ เครื่องเขียนแบบน่ารักๆ ไปจนถึงพวกกระดาษห่อของขวัญ สมุดปากกา บ้านๆทั่วไป
กลุ่มสอง คือ กลุ่มกระเป๋า รองเท้า กลุ่มนี้จะอยู่ท้ายๆ สำเพ็งหน่อย ถ้าใครรู้จักร้านทอง ตั้งโต๊ะกัง อันนี้จะอยู่โซนนั้นนะคะ ถ้าเดินไปจากต้นซอย วานิช 1 ก็พอข้ามถนนราชวงศ์ ก็จะเริ่มเข้าสู่โซนกระเป๋าก่อน
กระเป๋าก็มีทุกชนิดค่ะที่เค้าขายกัน อยากขายกระเป๋าแบบไหนก็ลองไปเดินดูนะคะ แบบพวก mirror AAA จริงๆก็มีค่ะ แต่บางร้านจะขายให้เฉพาะที่เป็นลูกค้าประจำเท่านั้น ต้องซื้อเยอะขั้นต่ำ 3 ใบ 6 ใบ
รองเท้า จะอยู่โซนท้าย ๆ เข้าไปอีก ถัดจากตรอกโรงโคมในแผนที่ รองเท้าแตะ รองเท้ายาง รองเท้าแฟชั่นแบบขาย 199 รองเท้าผ้าใบ อันนี้จะมีเยอะมาก ต้องไปเดินดูนะคะว่าอยากจะขายแบบไหน ส่วนมากขายส่งค่ะ ถ้าไปซื้อปลีก เค้าจะขายในราคา ++ เยอะเหมือนกัน
กลุ่มสาม ที่คิดว่าน่าจะเป็นของที่เอาไปขายต่อได้ดี ก้อพวกของเล่นค่ะ ของเล่นก็มีตั้งแต่ พวกเป็นแผงๆ ที่ขายตามร้านขายของชำ 5 บาท 1 บาท ตุ๊กตุ่น หม้อข้าวหม้อแกง ของเล่นน่ารักๆแบบ import จากญี่ปุ่น โมเดล อันนี้ก็เยอะค่ะ rement โมเดลแพงๆ อันนี้ก็มีหลายร้าน ไบลน์ เคยไปถามราคาถ้าซื้อส่งก้อลดได้นิดหน่อย พอ ๆ กับ pre จากเว็บพวกตุ๊กตาเป่าลม ตุ๊กตาสำหรับประดับบ้านตัวใหญ่ ๆ ที่ฮิต ๆ หรือพวกรถบังคับ เครื่องบินบังคับ อันนี้ก้อเพียบค่ะ ถ้าจะซื้อของเล่นไปขายต่อ คงต้องเดินสำรวจราคาเยอะ ๆ เพราะแต่ละร้านราคาต่างกันเยอะเหมือนกัน ยกเว้นพวกของเล่น 5 บาท 10 บาท ลูกโป่งเป่าลม ราคาพอๆกันค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)